ไทย (Thai): Unlocked Literal Bible Print

Updated ? hours ago # views See on WACS
1 CHRONICLES
1 CHRONICLES
1

1 อาดัม เสท เอโนช 2 เคนัน มาหะลาเลล ยาเรด 3 เอโนค เมธูเสลาห์ ลาเมค 4 บุตรชายทั้งหลายของโนอาห์คือ เชม ฮาม ยาเฟท

5 บุตรชายทั้งหลายของยาเฟทคือโกเมอร์ มาโกก มาดัย ยาวาน ทูบัล เมเชค และทิราส 6 บุตรชายทั้งหลายของโกเมอร์คืออัชเคนัส รีฟัท และโทการมาห์ 7 บุตรชายทั้งหลายของยาวานคือเอลีชาห์ ทารชิช คิทธิม และโรดานิม

8 บุตรชายทั้งหลายของฮามคือคูช มิสรายิม พูด และคานาอัน 9 บุตรชายทั้งหลายของคูชคือเสบา ฮาวิลาห์ สับทา ราอามาห์ และสับเทคา บุตรชายทั้งหลายของราอามาห์ คือเชบา และเดดาน 10 คูชเป็นบิดาของนิมโรดซึ่งเป็นผู้พิชิตคนแรกบนแผ่นดินโลก

11 อียิปต์เป็นบรรพบุรุษของคนลูดิม คนอานามิน คนเลหะบิม คนนัฟทูฮิม 12 คนปัทรุสิม คนคัสลูฮิม(ต้นเผ่าคนฟีลิสเตีย) และคนคัฟโทร์

13 คานาอันเป็นบิดาของไซดอน บุตรหัวปีของเขา และของเฮท 14 เขาเป็นบรรพบุรุษคนเยบุส คนอาโมไรต์ คนเกอร์กาชี 15 คนฮีไวต์ คนอารคี คนสินี 16 คนอารวัด คนเศเมอร์ และคนฮามัท

17 บุตรชายทั้งหลายของเชมคือเอลาม อัสชูร อารปัคชาด ลูด อารัม อูส ฮูล เกเธอร์ และเมเชค 18 อารปัคชาดเป็นบิดาของเชลาห์ และเชลาห์เป็นบิดาของเอเบอร์ 19 เอเบอร์มีบุตรชายสองคน ชื่อของคนหนึ่งคือเปเลก เพราะว่าในสมัยของเขามีการแบ่งดินแดนกันและน้องชายของเขาชื่อโยกทาน

20 โยกทานเป็นบิดาของอัลโมดัด เชเลฟ ฮาซารมาเวท เยราห์ 21 ฮาโดรัม อุซาล และดิคลาห์ 22 เอบาล อาบีมาเอล เชบา 23 โอฟีร์ ฮาวิลาห์ และโยบับ คนทั้งหมดเหล่านี้เป็นเชื้อสายทั้งหลายของโยกทาน

24 เชม อารปัคชาด เชลาห์ 25 เอเบอร์ เปเลก เรอู 26 เสรุก นาโฮร์ เทราห์ 27 อับรามผู้ซึ่งคืออับราฮัม

28 บุตรชายทั้งหลายของอับราฮัมคืออิสอัค และอิชมาเอล 29 คนเหล่านี้คือบุตรชายทั้งหลายของพวกเขา บุตรหัวปีของอิชมาเอลคือเนบาโยท และเคดาร์ อัดเบเอล มิบสัม 30 มิชมา ดูมาห์ มัสสา ฮาดัด เทมา

31 เยทูร์ นาฟิช และเคเดมาห์ คนเหล่านี้เป็นพวกบุตรชายของอิชมาเอล 32 บุตรชายทั้งหลายของเคทูราห์ภรรยาน้อยของอับราฮัม คือศิมราน โยกชาน เมดาน มีเดียน อิชบาก และชูอาห์ และบุตรชายทั้งหลายของโยกชานคือเชบา และเดดาน 33 บุตรชายทั้งหลายของมีเดียนคือเอฟาห์ เอเฟอร์ ฮาโนค อาบีดา และเอลดาอาห์ คนเหล่านี้ทั้งหมดเป็นเชื้อสายทั้งหลายของเคทูราห์

34 อับราฮัมเป็นบิดาของอิสอัค บุตรชายทั้งหลายของอิสอัคคือเอซาว และอิสราเอล 35 บุตรชายทั้งหลายของเอซาวคือ เอลีฟัส เรอูเอล เยอูส ยาลาม และโคราห์ 36 บุตรชายทั้งหลายของเอลีฟัสคือเทมาน โอมาร์ เศโฟ กาทาม เคนัส ทิมนาและอามาเลข 37 บุตรของชายทั้งหลายเรอูเอลคือนาหัท เศราห์ ชัมมาห์ และมิสซาห์

38 บุตรชายทั้งหลายของเสอีร์คือโลทาน โชบาล ศิเบโอน อานาห์ ดีโชน เอเซอร์ และดีชาน 39 บุตรชายทั้งหลายของโลทานคือโฮรี และโฮมัม และน้องสาวของโลทานคือทิมนา 40 บุตรชายทั้งหลายของโชบาลคืออัลวาน มานาฮาท เอบาล เชฟี และโอนัม บุตรชายทั้งหลายของศิเบโอนคืออัยยาห์ และอานาห์

41 บุตรชายของอานาห์คือดีโชน บุตรชายทั้งหลายของดีโชนคือเฮมดาน เอชบาน อิธรานและเคราน 42 บุตรชายทั้งหลายของเอเซอร์คิอบิลฮาน ศาวาน และยาอาคาน บุตรชายทั้งหลายของดีชานคืออูส และอารัน

43 ต่อไปนี้คือกษัตริย์ทั้งหลายผู้ทรงครองราชย์อยู่ในแผ่นดินเอโดม ก่อนที่มีกษัตริย์องค์ใดๆ ครองราชย์เหนือคนอิสราเอลคือเบลาบุตรเบโอร์ เมืองของท่านชื่อดินฮาบาห์ 44 เมื่อเบลาได้สวรรคต โยบับบุตรชายเศราห์ของเมืองโบสราห์ได้ขึ้นครองราชย์แทนพระองค์

45 เมื่อโยบับสวรรคตแล้ว หุชามของแผ่นดินคนเทมานได้ขึ้นครองราชย์แทนพระองค์ 46 เมื่อหุชามสวรรคตแล้ว ฮาดัดบุตรเบดัดผู้รบชนะมีเดียนในดินแดนโมอับได้ขึ้นครองราชย์แทนพระองค์ และเมืองของท่านชื่ออาวีท

47 เมื่อฮาดัดสวรรคตแล้ว สัมลาห์แห่งเมืองมัสเรคาห์ได้ขึ้นครองราชย์แทนพระองค์ 48 เมื่อสัมลาห์สวรรคตแล้ว ชาอูลแห่งเมืองเรโหโบทฮันนาฮาร์ได้ขึ้นครองราชย์แทนพระองค์ 49 เมื่อชาอูลสวรรคตแล้ว บาอัลฮานันบุตรอัคโบร์ได้ขึ้นครองราชย์แทนพระองค์

50 เมื่อบาอัลฮานันบุตรชายของอัคโบร์สวรรคตแล้ว ฮาดัดได้ขึ้นครองราชย์แทนพระองค์ และเมืองของท่านชื่อปาอี มเหสีของพระองค์มีพระนามว่าเมเหทาเบล บุตรหญิงของมัทเรด บุตรหญิงของเมซาหับ 51 ฮาดัดสวรรคต หัวหน้าทั้งหลายของตระกูลต่างๆ ในเอโดมคือ ทิมนา อ้ลวาห์ เยเธท

52 โอโฮลีบามาห์ เอลาห์ ปิโนน 53 เคนัส เทมาน มิบซาร์ 54 มักดีเอล อิราม คนเหล่านี้เป็นหัวหน้าทั้งของตระกูลต่างๆ ในเอโดม

2

1 คนเหล่านี้คือบุตรชายทั้งหลายของอิสราเอลคือ รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ เศบูลุน 2 ดาน โยเซฟ เบนยามิน นัฟทาลี กาด และอาเชอร์

3 บุตรชายทั้งหลายของยูดาห์คือเอร์ โอนัน และเชลาห์ ผู้ซึ่งบุตรหญิงของชูวาหญิงชาวคานาอันได้ให้กำเนิดแก่ท่านคือ เอร์บุตรหัวปีของยูดาห์ ซึ่งเป็นคนชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ พระองค์จึงได้ทรงประหารเขาเสีย 4 ทามาร์บุตรสะใภ้ของท่านให้กำเนิดเปเรศ และเศราห์ให้ท่าน ยูดาห์มีบุตรชายทั้งหมดห้าคน

5 บุตรชายทั้งหลายของเปเรศคือเฮสโรน และฮามูล 6 บุตรชายทั้งหลายของเศราห์คือศิมรี เอธาน เฮมาน คาลโคล์ และดารดา รวมทั้งหมดห้าคน 7 บุตรชายของคารมีคืออาคาร์ ผู้ได้ก่อความเดือดร้อนต่ออิสราเอล เมื่อเขาได้ขโมยสิ่งที่สงวนไว้สำหรับพระเจ้า 8 บุตรชายของเอธานคืออาซาริยาห์

9 บุตรชายทั้งหลายของเฮสโรนคือเยราห์เมเอล ราม และเคลุบัย 10 รามเป็นบิดาของอัมมีนาดับ และอัมมีนาดับเป็นบิดาของนาโชน เป็นผู้นำคนหนึ่งท่ามกลางเชื้อสายของยูดาห์ 11 นาโชนเป็นบิดาของสัลมา สัลมาเป็นบิดาของโบอาส 12 โบอาสเป็นบิดาของโอเบด และโอเบดเป็นบิดาของเจสซี

13 เจสซีเป็นบิดาของเอลีอับบุตรหัวปีของท่าน อาบีนาดับคนที่สอง ชิเมอาคนที่สาม 14 นาธันเอลคนที่สี่ รัดดัยคนที่ห้า 15 โอเซมคนที่หก ดาวิดคนที่เจ็ด 16 พี่สาวของพวกเขาคือนางเศรุยาห์ และนางอาบีกายิล บุตรชายทั้งหลายของนางเศรุยาห์คืออาบีชัย โยอาบ และอาสาเฮล รวมสามคน 17 นางอาบีกายิลได้ให้กำเนิดอามาสาซึ่งมีบิดาคือเยเธอร์ คนอิชมาเอล

18 คาเลบบุตรชายของเฮสโรนมีบุตรกับนางอาซุบาห์ภรรยาของเขา และกับนางเยรีโอท บุตรชายทั้งหลายของเขาคือเยเชอร์ โชบับ และอารโดน 19 เมื่ออาซุบาห์สวรรคต คาเลบก็แต่งงานกับเอฟราธผู้ให้กำเนิดเฮอร์แก่เขา 20 เฮอร์เป็นบิดาของอุรี และอุรีเป็นบิดาของเบซาเลล

21 ภายหลังเฮสโรน (เมื่อเขาอายุหกสิบปี) ได้แต่งงานกับบุตรหญิงของมาคีร์บิดาของกิเลอาด นางได้ให้กำเนิดเสกุบ 22 เสกุบเป็นบิดาของยาอีร์ ผู้ควบคุมยี่สิบสามเมืองในแผ่นดินกิเลอาด 23 เกชูร์กับอารัมยึดเมืองยาอีร์ และเมืองเคนาทรวมทั้งอีกหกสิบเมืองรอบๆ เมืองเหล่านั้น คนทั้งหมดเหล่านี้ที่อาศัยอยู่เป็นเชื้อสายของมาคีร์บิดาของกิเลอาด 24 ภายหลังเฮสโรนตายแล้ว คาเลบได้หลับนอนกับเอฟราธาห์ ภรรยาของเฮสโรนบิดาของเขา นางได้ให้กำเนิดอัชฮูร์แก่เขา ซึ่งเป็นบิดาของเทโคอา

25 บุตรชายทั้งหลายของเยราห์เมเอล บุตรหัวปีของเฮสโรนคือราม บุตรหัวปีของท่าน บุนาห์ โอเรน โอเซม และอาหิยาห์ 26 เยราห์เมเอลมีภรรยาอีกคนหนึ่งชื่อนางอาทาราห์ นางเป็นมารดาของโอนัม 27 บุตรชายทั้งหลายของรามบุตรหัวปีของเยราห์เมเอลคือมาอัส ยามีน และเอเคอร์ 28 บุตรชายทั้งหลายของโอนัมคือชัมมัย และยาดา บุตรชายทั้งหลายของชัมมัยชื่อนาดับ และอาบีชูร์ 29 ภรรยาของอาบีชูร์ชื่ออาบีฮาอิล และนางได้ให้กำเนิดอัคบาน และโมลิด

30 บุตรชายทั้งหลายของนาดับคือเสเลด และอัปปาอิม แต่เสเลดตายโดยไม่มีบุตร 31 บุตรชายของอัปปาอิมคืออิชอี บุตรชายของอิชอีคือเชชัน บุตรชายของเชชันชื่ออัคลัย 32 บุตรชายทั้งหลายของยาดา น้องชายของชัมมัยคือ เยเธอร์ และโยนาธาน แต่เยเธอร์ตายโดยไม่มีบุตร 33 บุตรชายทั้งหลายของโยนาธานชื่อเปเลธ และศาซา คนเหล่านี้เป็นเชื้อสายของเยราห์เมเอล

34 เชชันไม่มีบุตรชาย มีแต่พวกบุตรหญิง เชชันมีคนรับใช้ชาวอียิปต์อยู่คนหนึ่งชื่อยารฮา 35 เชชันจึงยกบุตรหญิงของเขาให้เป็นภรรยาของยารฮาคนรับใช้ของเขา และนางได้ให้กำเนิดอัททัยแก่เขา 36 อัททัยเป็นบิดาของนาธัน และนาธันเป็นบิดาของศาบาด 37 ศาบาดเป็นบิดาของเอฟลาล และเอฟลาลเป็นบิดาของโอเบด 38 โอเบดเป็นบิดาของเยฮู และเยฮูเป็นบิดาของอาซาริยาห์

39 อาซาริยาห์เป็นบิดาของเฮเลส และเฮเลสเป็นบิดาของเอเลอาสาห์ 40 เอเลอาสาห์เป็นบิดาของสิสมัย และสิสมัยเป็นบิดาของชัลลูม 41 ชัลลูมเป็นบิดาของเยคามิยาห์ และเยคามิยาห์เป็นบิดาของเอลีชามา

42 บุตรชายทั้งหลายของคาเลบน้องชายของเยราห์เมเอลคือเมชา บุตรหัวปีของเขา ซึ่งเป็นบิดาของศีฟ บุตรชายคนที่สองของเขาคือมาเรชาห์ ผู้เป็นบิดาของเฮโบรน 43 บุตรชายทั้งหลายของเฮโบรนคือโคราห์ ทัปปูวาห์ เรเคม และเชมา 44 เชมาเป็นบิดาของราฮัม ผู้เป็นบิดาของโยรเคอัม และเรเคมเป็นบิดาของชัมมัย

45 บุตรของชัมมัยคือมาโอน และมาโอนเป็นบิดาของเบธซูร์ 46 เอฟาห์ภรรยาน้อยของคาเลบได้ให้กำเนิดฮาราน โมซา และกาเซส ฮารานเป็นบิดาของกาเซส 47 บุตรชายทั้งหลายของยาห์ดัยคือเรเกม โยธาม เกชาน เปเลท เอฟาห์ และชาอัฟ 48 มาอาคาห์ ภรรยาน้อยอีกคนหนึ่งของคาเลบได้ให้กำเนิดเชเบอร์ และทีรหะนาห์

49 นางได้ให้กำเนิดชาอัฟบิดาของมัดมันนาห์ เชวาบิดาของมัคเบนาห์ และบิดาของกิเบอา บุตรหญิงของคาเลบคืออัคสาห์ คนเหล่านี้เป็นเชื้อสายของคาเลบ 50 คนเหล่านี้คือบุตรชายทั้งหลายของเฮอร์ ผู้เป็นบุตรหัวปีของเอฟราธาห์คือโชบาล บิดาของคีริยาทเยอาริม

51 สัลมาบิดาของเบธเลเฮม และฮาเรฟ บิดาของเบธกาเดอร์ 52 โชบาลบิดาของคีริยาทเยอาริมมีเชื้อสายทั้งหลายคือฮาโรเอห์ และครึ่งหนึ่งของคนมานาฮาท 53 และครึ่งหนึ่งของตระกูลของคีริยาทเยอาริมคือคนอิทไรต์ คนปุไท คนชุมัท คนมิชรา คนโศราห์ และคนเอชทาโอลสืบเชื้อสายมาจากคนเหล่านี้

54 ตระกูลของของสัลมามีดังต่อไปนี้ คือเบธเลเฮม คนเนโทฟาห์ อัทโรทเบธโยอาบ และครึ่งหนึ่งของคนมานาฮาท และคนโศราห์ 55 ทั้งบรรดาตระกูลของอาลักษณ์ซึ่งอยู่ ณ เมืองยาเบส คือคนทิราไธต์ คนชิเมอี และคนสุคา คนเหล่านี้เป็นคนเคไนต์ผู้สืบเชื้อสายมาจากฮัมมัท บรรพบุรุษของคนเรคาบ

3

1 คนเหล่านี้คือโอรสทั้งหลายของดาวิดที่ประสูติในเมืองเฮโบรน โอรสหัวปีคืออัมโนนโดยพระนางอาหิโนอัมจากยิสเรเอล องค์ที่สองคือดาเนียลโดยพระนางอาบีกายิลจากคารเมล 2 องค์ที่สามคืออับซาโลมผู้ซึ่งพระมารดาคือพระนางมาอาคาห์ราชธิดาของทัลมัยกษัตริย์แห่งเมืองเกชูร์ องค์ที่สี่คืออาโดนียาห์โอรสของพระนางฮักกีท 3 องค์ที่ห้าคือเชฟาทิยาห์จากพระนางอาบีทัล องค์ที่หกคืออิทเรอัมจากพระนางเอกลาห์มเหสีของพระองค์

4 โอรสทั้งหกพระองค์ได้กำเนิดแก่ดาวิดในเมืองเฮโบรนที่ซึ่งพระองค์ได้ทรงปกครองมานานเจ็ดปีกับหกเดือน จากนั้นพระองค์ได้ทรงปกครองสามสิบสามปีในเยรูซาเล็ม 5 โอรสสี่พระองค์เหล่านี้ พระนางบัทเชบาบุตรหญิงของอัมมีเอลได้กำเนิดแก่พระองค์ในเยรูซาเล็มคือ ชัมมูอา โชบับ นาธัน และซาโลมอน 6 โอรสอีกเก้าพระองค์ของดาวิดคือ อิบฮาร์ เอลีชูอา เอลเปเลท 7 โนกาห์ เนเฟก ยาเฟีย 8 เอลีชามา เอลียาดา และเอลีเฟเลท 9 โอรสเหล่านี้ของดาวิดไม่นับรวมโอรสทั้งหลายโดยนางสนมทั้งหลายของพระองค์ ทามาร์เป็นน้องหญิงของพวกเขา

10 โอรสของซาโลมอนคือเรโหโบอัม โอรสของเรโหโบอัมคืออาบียาห์ โอรสของอาบียาห์คืออาสา โอรสของอาสาคือเยโฮชาฟัท 11 โอรสของเยโฮชาฟัทคือโยรัม โอรสของโยรัมคืออาหัสยาห์ โอรสของอาหัสยาห์คือโยอาช 12 โอรสของโยอาชคืออามาซิยาห์ โอรสของอามาชิยาห์คืออาซาริยาห์ โอรสของอาซาริยาห์คือโยธาม

13 โอรสของโยธามคืออาหัส โอรสของอาหัสคือเฮเซคียาห์ โอรสของเฮเซคียาห์คือมนัสเสห์ 14 โอรสของมนัสเสห์คืออาโมน โอรสของอาโมนคือโยสิยาห์

15 บรรดาโอรสของโยสิยาห์ โอรสหัวปีคือโยฮานัน องค์ที่สองคือเยโฮยาคิม องค์ที่สามคือเศเดคียาห์ องค์ที่สี่คือชัลลูม 16 โอรสของเยโฮยาคิมคือเยโฮยาคีน และเศเดคียาห์

17 บรรดาโอรสของเยโฮยาคีนผู้ตกเป็นเชลยนั้นคือเชอัลทิเอล 18 มัลคีราม เปดายาห์ เชนาสซาร์ เยคามิยาห์ โฮชามา และเนดาบียาห์

19 บรรดาบุตรชายของเปดายาห์คือ เศรุบบาเบล และชิเมอี บุตรชายทั้งหลายของเศรุบบาเบลคือ เมชุลลาม และฮานันยาห์ เชโลมิทเป็นน้องหญิงของพวกเขา 20 บุตรชายอีกห้าคนของเขาคือฮาชูบาห์ โอเฮล เบเรคิยาห์ ฮาสาดิยาห์ และยูชับเฮเสด 21 บุตรชายทั้งหลายของฮานันยาห์คือ ปาลาติยาห์ และเยชายาห์ บุตรชายของเขาคือเรไฟยาห์ และเชื้อสายทั้งหลายต่อไปคืออารนัน โอบาดีห์ และเชคานิยาห์

22 บุตรชายของเชคานิยาห์คือ เชไมอาห์ และบุตรชายทั้งหลายของเชไมอาห์คือฮัทธัช อิกาล บารียาห์ เนอารียาห์ และชาฟัท 23 บุตรชายสามคนของเนอารียาห์คือเอลีโอนัย ฮิสคียาห์ และอัสรีคัม 24 บุตรชายเจ็ดคนของเอลีโอนัยคือโฮดาวิยาห์ เอลียาชีบ เปไลยาห์ อักขูบ โยฮานัน เดไลยาห์ และอานานี

4

1 เชื้อสายทั้งหลายของยูดาห์คือ เปเรศ เฮสโรน คารมี เฮอร์ และโชบาล 2 โชบาลเป็นบิดาของเรอายาห์ เรอายาห์เป็นบิดาของยาหาท ยาหาทเป็นบิดาของอาหุมัย และลาฮาด คนเหล่านี้เป็นบรรพบุรุษของตระกูลทั้งหลายของคนโศราห์

3 คนเหล่านี้เป็นบรรพบุรุษทั้งหลายของตระกูลต่างๆ ในเมืองเอธามคือ ยิสเรเอล อิชมา และอิดบาช น้องหญิงของพวกเขาชื่อฮัสเซเลลโพนี 4 เปนูเอลเป็นบรรพบุรุษของตระกูลทั้งหลายในเมืองเกโดร์ เอเซอร์เป็นผู้ตั้งต้นตระกูลทั้งหลายในหุชาห์ คนเหล่านี้เป็นเชื้อสายทั้งหลายของเฮอร์ บุตรหัวปีของเอฟราธาห์ผู้ก่อตั้งเมืองเบธเลเฮม

5 อัชฮูร์บิดาของเทโคอา มีภรรยาสองคนคือเฮลาห์และนาอาราห์ 6 นางนาอาราห์ได้ให้กำเนิดอาหุสซาม เฮเฟอร์ เทเมนี และฮาอาหัชทารีแก่เขา คนเหล่านี้เป็นบุตรชายทั้งหลายของนางนาอาราห์ 7 บุตรชายทั้งหลายของนางเฮลาห์คือเศเรท อิสฮาร์ เอทนาน 8 และโขสเป็นบิดาของอานูบ และโศเบบาห์ และบรรดาตระกูลทั้งหลายที่สืบเชื้อสายมาจากอาหารเฮลบุตรชายของฮารูม

9 ยาเบสเป็นผู้ที่ได้รับการนับถือมากกว่าพวกพี่น้องของเขา มารดาของเขาได้เรียกเขาว่ายาเบส นางกล่าวว่า “เพราะฉันได้คลอดเขาด้วยความเจ็บปวด” 10 ยาเบสได้ร้องทูลต่อพระเจ้าของอิสราเอล และกล่าวว่า “ถ้าพระองค์จะทรงอวยพรแก่ข้าพระองค์จริงๆ ขอทรงขยายเขตแดนของข้าพระองค์ และพระหัตถ์ของพระองค์จะทรงอยู่กับข้าพระองค์ และเมื่อพระองค์ทรงกระทำเช่นนี้ พระองค์จะทรงปกปักรักษาข้าพระองค์จากการทำร้าย ดังนั้นข้าพระองค์จะไม่ได้รับความเจ็บปวด” และพระเจ้าได้ประทานตามที่เขาทูลขอ 11 เคลูบพี่ชายของชูอาห์เป็นบิดาของเมหิร์ ผู้เป็นบิดาของเอชโทน 12 เอชโทนเป็นบิดาของ เบธราฟา ปาเสอาห์ และเทหินนาห์ ผู้เป็นบิดาของอิรนาหาช คนเหล่านี้ได้อาศัยอยู่ในเรคาห์

13 บุตรชายทั้งหลายของเคนัสคือโอทนีเอล และเสไรอาห์ บุตรชายทั้งหลายของโอทนีเอลคือฮาธาท และเมโอโนธัย 14 เมโอโนธัยเป็นบิดาของโอฟ​ราห์ และ​เส​ไร​อาห์​เป็น​บิดา​ของ​โย​อาบ ผู้ตั้งต้นเกหะราชิม ผู้ซึ่งเป็นช่างฝีมือ

15 บุตรชายทั้งหลายของคาเลบบุตรเยฟูนเนห์คือ อิรู เอลาห์ และนาอัม บุตรชายของเอลาห์คือเคนัส 16 บุตรชายของเยฮาลเลเลลคือ ศิฟ ศิฟาห์ ทีรียา และอาสาเรล

17 บุตรชายทั้งหลายของเอสราคือเยเธอร์ เม​เรด​ เอ​เฟอร์ และ​ยา​โลน ​ภรรยาคนอียิปต์ของเม​เรดได้ให้กำเนิดมิเรียม ชัม​มัย และ​อิช​บาห์ผู้ซึ่งเป็น​บิดา​ของ​เอช​เท​โม​อา คนเหล่านี้เป็นบุตรชายทั้งหลายของบิทิยาห์ พระราชธิดาของฟาโรห์ผู้ซึ่งเมเรดได้แต่งงานด้วย 18 ภรรยาคนยิวได้ให้กำเนิดเยเรดผู้เป็นบิดาของเกโดร์ ฮาเบอร์ผู้ซึ่งเป็นบิดาของโสโค และเยคูธีเอลผู้เป็นบิดาของศาโนอาห์

19 บุตรชายทั้งสองคนของภรรยาของโฮดียาห์ น้องหญิงของนาฮาม คนหนึ่งเป็นบิดาของเคอีลาห์ คนเกเรม อีกคนหนึ่งคือเอชเทโมอา คนมาอาคาห์ 20 บุตรชายทั้งหลายของชิโมนคืออัมโนน รินนาห์ เบนฮานัน และทิโลน บุตรชายทั้งหลายของอิชอีคือ​โศ​เหท และ​เบน​โซ​เฮท

21 เชื้อสายทั้งหลายของเชลาห์บุตรชายของยูดาห์คือ เอร์บิดาของเลคาห์ ลาอาดาห์บิดาของมาเรชาห์และตระกูลทั้งหลายผู้ทำผ้าป่านแห่งเบธชัชเบอา 22 โยคิมคนเมืองโคเซบา และโยอาชและสาราฟผู้ปกครองในโมอับและยาชูบิเลเฮม (ข้อมูลนี้มาจากบันทึกโบราณ) 23 คนเหล่านี้เป็นช่างปั้นหม้อผู้ซึ่งได้อาศัยในเมืองเนทาอิม และเกดาราห์ และได้ทำงานให้แก่กษัตริย์

24 เชื้อสายทั้งหลายของสิเมโอนคือ เนมูเอล ยามีน ยารีบ เศราห์ และชาอูล 25 ชัลลูมเป็นบุตรชายของชาอูล มิบสัมเป็นบุตรชายของชัลลูม และมิชมาเป็นบุตรชายของมิบสัม 26 เชื้อสายทั้งหลายของมิชมาคือฮัมมูเอลผู้ซึ่งเป็นบุตรชายของเขา ศักเกอร์หลานชายของเขา และชิมเมอีเหลนชายของเขา 27 ชิเมอีมีบุตรชายสิบหกคน และบุตรหญิงหกคน พี่น้องของเขามีบุตรไม่มาก ดังนั้นตระกูลทั้งหลายของพวกเขาจึงไม่ได้เพิ่มจำนวนอย่างมากมายเหมือนที่คนยูดาห์ได้ทำ

28 พวกเขาทั้งหลายได้อาศัยในเมืองเบเออร์เชบา โมลาดาห์ และที่ฮาซารชูอาล 29 พวกเขาอาศัยอยู่ที่บิลฮาห์ เอเซม โทลัด 30 เบธูเอล โฮรมาห์ ศิกลาก 31 เบธมารคาโบท ฮาซารสูลิม เบธบิรี และ ชาอาราอิม เหล่านี้คือเมืองทั้งหลายของพวกเขาจนถึงรัชสมัยของดาวิด

32 หมู่บ้านของพวกเขาห้าหมู่บ้านคือ เอตาม อิน รินโมน โทเคนและอาชัน 33 รวมกับหมู่บ้านอื่นๆ ไกลไปถึงเมืองบาอัล หมู่บ้านเหล่านี้คือที่ตั้งถิ่นฐานของพวกเขา และพวกเขาได้รักษาบันทึกลำดับวงศ์วานไว้ 34 ตระกูลผู้นำทั้งหลายคือ เม​โช​บับ ยัม​เลค โย​ชาห์​บุตรชายของ​อา​มา​ซิ​ยาห์ 35 โย​เอล เย​ฮู บุตรชายของ​โย​ชิ​บี​ยาห์ ​บุตรชายของ​เส​ไร​อาห์ ​บุตรชายของ​อา​สิ​เอล 36 เอ​ลี​โอ​นัย ยา​อา​โค​บาห์ เย​โช​ฮา​ยาห์ อา​สา​ยาห์ อา​ดี​เอล เย​สิ​มี​เอล เบ​ไน​ยาห์ 37 และศีซา บุตรชายของ​ชิฟี ​บุตรชายของ​อา​โลน ​บุตรชายของ​เย​ดา​ยาห์ ​บุตรชายของ​ชิม​รี ​บุตรชายของ​เช​ไม​อาห์

38 รายชื่อเหล่านี้ที่ได้กล่าวถึงคือผู้นำทั้งหลายในตระกูลทั้งหลายของพวกเขาและตระกูลของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย 39 พวกเขาได้ไปใกล้เมืองเกโดร์ ทางทิศตะวันออกของหุบเขา เพื่อแสวงหาทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์สำหรับฝูงสัตว์เลี้ยงของพวกเขา 40 พวกเขาพบทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่และดี แผ่นดินนั้นกว้างใหญ่ เงียบ และสงบ คนฮามเคยอยู่ที่นั่นมาก่อน

41 นี่คือรายชื่อของผู้ที่ได้เข้ามาในสมัยเฮเซคียาห์กษัตริย์ของยูดาห์ และได้โจมตีคนฮามที่ตั้งถิ่นฐาน และคนเมอูอิมผู้ที่อยู่ที่นั่นด้วย พวกเขาได้ทำลายพวกเขาอย่างสิ้นเชิง และอาศัยอยู่ที่นั่น เพราะพวกเขาพบทุกหญ้าสำหรับฝูงสัตว์ทั้งหลายของพวกเขา 42 ผู้ชายคนสิเมโอนห้าร้อยคนได้ไปยังภูเขาเสอีร์ ด้วยผู้นำทั้งหลายของพวกเขา คือเปลาทียาห์ เน​อา​รี​ยาห์ เร​ไฟ​ยาห์ และอุส​ซี​เอล ​บุตร​ชาย​ทั้ง​หลาย​ของ​อิช​อี 43 ​พวก​เขา​โจม​ตี​คน​ลี้ภัยอา​มา​เลข​ที่​เหลือ​อยู่ และได้​อา​ศัย​อยู่​ที่​นั่น​จน​ทุก​วันนี้

5

1 บุตรชายทั้งหลายของรูเบน บุตรหัวปีของอิสราเอล รูเบนเป็นบุตรชายหัวปีของอิสราเอล แต่สิทธิบุตรหัวปีของเขาถูกมอบให้บุตรชายทั้งหลายของโยเซฟบุตรชายของอิสราเอลเพราะรูเบนได้กระทำให้ที่นอนของบิดาเป็นมลทิน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถูกบันทึกว่าเป็นบุตรชายคนโต 2 ยูดาห์ได้เป็นผู้ที่แข็งแรงที่สุดในหมู่พี่น้องของเขา และผู้นำจะมาจากเขา แต่สิทธิบุตรหัวปีเป็นของบุตรชายทั้งหลายของโยเซฟ

3 บุตรชายทั้งหลายของรูเบนบุตรหัวปีของอิสราเอลคือฮาโนค ปัลลู เฮสโรน และคารมี 4 บรรดาเชื้อสายทั้งหลายของโยเอลคือคนเหล่านี้้ บุตรชายของโยเอลคือเชไมอาห์ บุตรชายของเชไมอาห์คือโกก บุตรชายของโกกคือชิเมอี

5 บุตรชายของชิเมอีคือมีคาห์ บุตรชายของมีคาห์คือเรอายาห์ บุตรชายของเรอายาห์คือบาอัล 6 บุตรชายของบาอัลคือเบเอราห์ผู้ซึ่งทิกลัทปิเลเสอร์ กษัตริย์อัสซีเรียได้ทรงกวาดต้อนไปเป็นเชลย เบเอราห์ได้เป็นผู้นำคนหนึ่งในเผ่ารูเบน

7 พวกญาติของเบเอราห์ตามตระกูลทั้งหลายของพวกเขาดังที่ได้ทำบัญชีรายชื่อวงศ์วานของพวกเขาไว้คือ เยอีเอลคนโต เศคาริยาห์ และ 8 เบลาบุตรชายของอาซาส บุตรชายของเชมา บุตรชายของโยเอล พวกเขาได้อาศัยในอาโรเออร์ ไกลไปถึงเมืองเนโบ และบาอัลเมโอน

9 และทางทิศตะวันออกไปเริ่มต้นถิ่นทุรกันดารและขยายไปถึงแม่น้ำยูเฟรติส เพราะว่าพวกเขามีฝูงสัตว์เลี้ยงมากมายในแผ่นดินกิเลอาด 10 ในรัชสมัยของชาอูล เผ่ารูเบนได้โจมตีคนฮาการ์และชนะพวกเขา พวกเขาได้อาศัยในเต็นท์ของคนฮาการ์ในแถบตะวันออกทั้งหมดของกิเลอาด

11 คนเผ่ากาดจำนวนมากได้อาศัยอยู่ใกล้พวกเขา ในแผ่นดินบาชานไกลไปจนถึงสาเลคาห์ 12 ผู้นำทั้งหลายของพวกเขาคือโยเอลผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าตระกูล และชาฟามเป็นที่สอง และยานัยและชาฟัทในบาชาน

13 พวกญาติทางฝ่ายครอบครัวบิดาทั้งหลายของพวกเขา มีทั้งหมดเจ็ดคนคือ มี​คา​เอล เม​ชุล​ลาม เช​บา โย​รัย ยา​คาน ศิอา และ​เอ​เบอร์ รวมทั้งหมด 7 คน 14 คนเหล่านี้ที่มีรายชื่อข้างต้นเป็นเชื้อสายของอาบีฮาอิล อาบีฮาอิลเป็นบุตรชายของหุรี หุรีเป็นบุตรชายของยาโรอาห์ ยาโรอาห์เป็นบุตรชายของกิเลอาด กิเลลาดเป็นบุตรชายของมีคาเอล มีคาเอลเป็นบุตรชายของเยชิชัย เยชิชัยเป็นบุตรชายของยาโด ยาโดเป็นบุตรชายของบุส

15 อาหิเป็นบุตรชายของอับดีเอล ผู้เป็นบุตรกุนี ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวบิดาของพวกเขา 16 พวกเขาได้อาศัยอยู่ในกิเลอาด ในบาชาน ในเมืองทั้งหลายและในทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ทั้งหมดของชาโรน ไปไกลถึงเขตแดนทั้งหลาย 17 ทั้งหมดนี้ได้ถูกบันทึกตามรายชื่อวงศ์วานในรัชสมัยของโยธามกษัตริย์แห่งยูดาห์ และรัชสมัยของเยโรโบอัมกษัตริย์แห่งอิสราเอล

18 คนรูเบน คนกาด และครึ่งหนึ่งของคนเผ่ามนัสเสห์มีทหารจำนวน 44,760 คนที่ได้รับการฝึกสำหรับการทำสงครามผู้ซึ่งถือโล่ และดาบ และพร้อมพลธนู 19 พวกเขาได้โจมตีคนฮาการ์ คนเยทูร์ คนนาฟิช และคนโนดับ

20 พวกเขาได้รับการช่วยเหลือจากพระเจ้าในการต่อสู้กับคนเหล่านั้น ด้วยวิธีนี้คนฮาการ์ และทั้งหมดผู้ซึ่งอยู่กับพวกเขาได้พ่ายแพ้ นี่เป็นเพราะคนอิสราเอลได้ร้องเรียกพระเจ้าในสงครามนั้น และพระองค์ได้ตอบสนองต่อพวกเขา เพราะพวกเขามอบความไว้วางใจไว้กับพระองค์ 21 พวกเขาได้จับยึดสัตว์ทั้งหลายของคนฮาการ์ รวมทั้งอูฐห้าหมื่นตัว แกะ 250,000 ตัว ลาสองพันตัว ผู้ชาย 100,000 คน 22 เพราะพระเจ้าได้ทรงต่อสู้เพื่อพวกเขา พวกเขาได้ฆ่าศัตรูจำนวนมาก พวกเขาได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินของพวกเขาจนถึงสมัยตกเป็นเชลย

23 ครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์ได้อาศัยในแผ่นดินบาชานไกลไปถึงบาอัลเฮอร์มอน และเสนีร์ (นั่นคือภูเขาเฮอร์โมน) 24 คนเหล่านี้คือหัวหน้าทั้งหลายของครอบครัวบิดาทั้งหลายของพวกเขาคือ ​เอ​เฟอร์ อิช​อี เอ​ลี​เอล อัส​รี​เอล เย​เร​มีย์ โฮ​ดา​วิ​ยาห์ และ​ยา​ดี​เอล พวกเขาทั้งหลายเป็นผู้ชายที่เข้มแข็ง กล้าหาญ และมีชื่อเสียง เป็นเหล่าผู้นำของครอบครัวทั้งหลายของพวกเขา

25 แต่พวกเขาไม่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของพวกเขา พวกเขาได้นมัสการพระทั้งหลายของประชาชนทั้งหลายของแผ่นดินนั้น ผู้ที่พระเจ้าได้ทรงทำลายไปต่อหน้าพวกเขา 26 พระเจ้าของอิสราเอลจึงทรงปลุกเร้าพระทัยของปูล กษัตริย์อัสซีเรีย (เรียกอีกชื่อว่า ทิกลัทบีเลเสอร์ กษัตริย์อัสซีเรีย) พระองค์ได้ทรงกวาดต้อนคนรูเบน คนกาด และครึ่งหนึ่งของคนมนัสเสห์ พระองค์นำพวกเขาไปยังฮา​ลาห์ ฮา​โบร์ ฮา​รา และ​แม่​น้ำ​โก​ซาน ที่ซึ่งพวกเขายังคงอยู่จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้

6

1 บุตรชายทั้งหลายของเลวีคือเกอร์โชม โคฮาท และเมรารี 2 บุตรชายทั้งหลายของโคฮาทคืออัมราม อิสฮาร์ เฮโบรน และอุสซีเอล

3 บุตรทั้งหลายของอัมรามคืออาโรน โมเสส และนางมิเรียม บุตรชายทั้งหลายของอาโรนคือนาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ และอิธามาร์ 4 เอเลอาซาร์เป็นบิดาของฟีเนหัส และฟีเนหัสเป็นบิดาของอาบีชูวา

5 อาบีชูวาเป็นบิดาของบุคคี บุคคีเป็นบิดาของอุสซี 6 อุสซีเป็นบิดาของเศราหิยาห์ เศราหิยาห์เป็นบิดาของเมราโยท 7 เมราโยทเป็นบิดาของอามาริยาห์ และอามาริยาห์เป็นบิดาของอาหิทูบ

8 อาหิทูบเป็นบิดาของศาโดก ศาโดกเป็นบิดาของอาหิมาอัส 9 อาหิมาอัสเป็นบิดาของอาซาริยาห์ อาซาริยาห์เป็นบิดาของโยฮานัน 10 โยฮานันเป็นบิดาของอาซาริยาห์ ผู้ได้รับใช้ในพระวิหารซึ่งซาโลมอนได้ทรงสร้างขึ้นในเยรูซาเล็ม

11 อาซาริยาห์เป็นบิดาของอามาริยาห์ และอามาริยาห์เป็นบิดาของอาหิทูบ 12 อาหิทูบเป็นบิดาของศาโดก และศาโดกเป็นบิดาของชัลลูม 13 ชัลลูมเป็นบิดาของฮิลคียาห์ และฮิลคียาห์เป็นบิดาของอาซาริยาห์ 14 อาซาริยาห์เป็นบิดาของเสไรอาห์ และเสไรอาห์เป็นบิดาของเยโฮซาดัก 15 เยโฮซาดักถูกจับไปเป็นเชลย เมื่อพระยาห์เวห์ได้ทรงมอบยูดาห์ และเยรูซาเล็มไว้ในพระหัตถ์ของเนบูคัดเนสซาร์

16 บุตรชายทั้งหลายของเลวีคือเกอร์โชม โคฮาท และเมรารี 17 บุตรชายทั้งหลายของเกอร์โชมคือลิบนี และชิเมอี 18 บุตรชายทั้งหลายของโคฮาทคืออัมราม อิสฮาร์ เฮโบรน และอุสซีเอล 19 บุตรชายทั้งหลายของเมรารีคือมาห์ลี และมูชี เหล่านี้เป็นบรรดาตระกูลของคนเลวีตามบัญชีบิดาทั้งหลายของพวกเขา 20 เชื้อสายทั้งหลายของเกอร์โชม บุตรชายของเขาคือลิบนี บุตรชายของลิบนีคือยาหาท บุตรชายของเขาคือศิมมาห์

21 บุตรชายของเขาคือโยอาห์ บุตรชายของเขาคืออิดโด บุตรชายของเขาคือเศราห์ บุตรชายของเขาคือเยอาเธรัย 22 เชื้อสายทั้งหลายของโคฮาท บุตรชายของเขาคืออัมมีนาดับ บุตรชายของเขาคือโคราห์ บุตรชายของเขาคืออัสสีร์ 23 บุตรชายของเขาคือเอลคานาห์ บุตรชายของเขาคือเอบียาสาฟ บุตรชายของเขาคืออัสสีร์ 24 บุตรชายของเขาคือทาหัท บุตรชายของเขาคืออุรีเอล บุตรชายของเขาคืออุสซียาห์ บุตรชายของเขาคือชาอูล

25 บุตรชายทั้งหลายของเอลคานาห์คืออามาสัย อาหิโมท 26 และบุตรชายชื่อเอลคานาห์คือ โศฟัยคือบุตรชายของเขา นาหัทคือบุตรชายของเขา 27 เอลีอับคือบุตรชายของเขา เยโรฮัมคือบุตรชายของเขา และเอลคานาห์คือบุตรชายของเขา 28 บุตรชายทั้งหลายของซามูเอลคือโยเอล บุตรหัวปีของเขา คนที่สองคืออาบียาห์ 29 บุตรชายของเมรารีคือมาห์ลี บุตรชายของเขาคือลิบนี บุตรชายของเขาคือชิเมอี บุตรชายของเขาคืออุสซาห์ 30 บุตรชายของเขาคือชิเมอา บุตรชายของเขาคือฮักกียาห์ บุตรชายของเขาคืออาสายาห์

31 ต่อไปนี้เป็นรายชื่อของพวกผู้ชายผู้ที่ดาวิดทรงแต่งตั้งให้ดูแลเรื่องดนตรีในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ หลังจากที่หีบพันธสัญญาได้มาตั้งอยู่ที่นั่นแล้ว 32 เขาทั้งหลายได้ปรนนิบัติด้วยการร้องเพลง ข้างหน้าพลับพลา เต็นท์นัดพบ จนกระทั่งซาโลมอนได้ทรงสร้างพระนิเวศของพระยาห์เวห์ในเยรูซาเล็ม พวกเขาได้ปฏิบัติตามหน้าที่ตามที่กำหนด ตามคู่มือที่ให้ไว้กับพวกเขา

33 คนเหล่านี้เป็นคนที่ปฏิบัติงานกับบุตรชายทั้งหลายของพวกเขา จากตระกูลของคนโคฮาทที่มาจากเฮมาน นักดนตรี นี่คือพวกบรรพบุรุษของเขาที่กำลังกลับมาในเวลานั้นคือ เฮมานบุตรชายของโยเอล โยเอลเป็นบุตรชายของซามูเอล 34 ซามูเอลผู้เป็นบุตรชายของเอลคานาห์ เอลคานาห์ผู้เป็นบุตรชายของเยโรฮัม เยโรฮัมผู้เป็นบุตรชายของเอลีเอล เอลีเอลผู้เป็นบุตรชายของโทอาห์ 35 โทอาห์ผู้เป็นบุตรชายของศูฟ ศูฟผู้เป็นบุตรชายของเอลคานาห์ เอลคานาห์ผู้เป็นบุตรชายของมาฮาท มาฮาทผู้เป็นบุตรชายของอามาสัย อามาสัยผู้เป็นบุตรชายของเอลคานาห์ 36 อามาสัยผู้เป็นบุตรชายของเอลคานาห์ เอลคานาห์ผู้เป็นบุตรชายของโยเอล โยเอลผู้เป็นบุตรชายของอาซาริยาห์ อาซาริยาห์ผู้เป็นบุตรชายของเศฟันยาห์ 37 เศฟันยาห์ผู้เป็นบุตรชายของทาหัท ทาหัทผู้เป็นบุตรชายของอัสสีร์ อัสสีร์ผู้เป็นบุตรชายของเอบียาสาฟ เอบียาสาฟผู้เป็นบุตรชายของโคราห์ 38 โคราห์ผู้เป็นบุตรชายของอิสฮาร์ อิสฮาร์ผู้เป็นบุตรชายของโคฮาท โคฮาทผู้เป็นบุตรชายของเลวี เลวีผู้เป็นบุตรชายของอิสราเอล

39 เฮมานเป็นเพื่อนร่วมงานกับอาสาฟผู้ยืนอยู่ข้างขวาของเขา อาสาฟเป็นบุตรชายของเบเรคิยาห์ เบเรคิยาห์ผู้เป็นบุตรชายของชิเมอา 40 ชิเมอาผู้เป็นบุตรชายของมีคาเอล มีคาเอลผู้เป็นบุตรชายของบาอาเสยาห์ บาอาเสยาห์ผู้เป็นบุตรชายของมัลคิยาห์ 41 มัลคิยาห์ผู้เป็นบุตรชายของเอทนี เอทนีผู้เป็นบุตรชายของเศราห์ เศราห์ผู้เป็นบุตรชายของอาดายาห์ 42 อาดายาห์ผู้เป็นบุตรชายของเอธาน เอธานผู้เป็นบุตรชายของศิมมาห์ ศิมมาห์ผู้เป็นบุตรชายของชิเมอี 43 ชิเมอีผู้เป็นบุตรชายของยาหาท ยาหาทผู้เป็นบุตรชายของเกอร์โชม เกอร์โชมผู้เป็นบุตรชายของเลวี

44 ที่ข้างซ้ายมือของเฮมานมีพวกเพื่อนร่วมงานของเขา คือบุตรชายทั้งหลายของเมรารี พวกเขารวมทั้งเอธานผู้เป็นบุตรชายของคีชี คีชีผู้เป็นบุตรชายของอับดี อับดีผู้เป็นบุตรชายของมัลลูค 45 มัลลูคผู้เป็นบุตรชายของฮาชาบิยาห์ ฮาชาบิยาห์ผู้เป็นบุตรชายของอามาซิยาห์ อามาซิยาห์ผู้เป็นบุตรชายของฮิลคียาห์ 46 ฮิลคียาห์ผู้เป็นบุตรชายของอัมซี อัมซีผู้เป็นบุตรชายของบานี บานีผู้เป็นบุตรชายของเชเมอร์ 47 เชเมอร์ผู้เป็นบุตรชายของมาห์ลี มาห์ลีผู้เป็นบุตรชายของมูชี มูชีผู้เป็นบุตรชายของเมรารี เมรารีผู้เป็นบุตรชายของเลวี

48 บรรดาญาติพี่น้องคนเลวี ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานทุกอย่างของพลับพลา ซึ่งก็คือพระนิเวศของพระเจ้า 49 อาโรนและบุตรชายทั้งหลายของเขาถวายเครื่องบูชาบนแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชา และบนแท่นเครื่องหอม เพื่อปฏิบัติงานทุกอย่างในอภิสุทธิสถาน การทำการลบบาปเพื่ออิสราเอล ตามทุกอย่างที่โมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้าได้บัญชาไว้ 50 ต่อไปนี้เป็นเชื้อสายของอาโรนที่ได้ถูกนับไว้ บุตรชายของอาโรนคือเอเลอาซาร์ บุตรชายของเอเลอาซาร์คือฟีเนหัส บุตรชายของฟีเนหัสคืออาบีชูวา 51 บุตรชายของอาบีชูวาคือบุคคี บุตรชายของบุคคีคืออุสซี บุตรชายของอุสซีคือเศราหิยาห์ 52 บุตรชายของเศราหิยาห์คือเมราโยท บุตรชายของเมราโยทคืออามาริยาห์ บุตรชายของอามาริยาห์คืออาหิทูบ 53 บุตรชายของอาหิทูบคือศาโดก บุตรชายของศาโดกคืออาหิมาอัส

54 ต่อไปนี้เป็นที่ตั้งถิ่นฐานสำหรับเชื้อสายของอาโรนผู้ซึ่งมาจากตระกูลคนโคฮาท (ฉลากแรกตกเป็นของพวกเขา) 55 พวกเขาได้เมืองเฮโบรนในแผ่นดินยูดาห์ และทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ทั้งหลายของมัน 56 แต่บรรดาทุ่งนาของเมือง และหมู่บ้านต่างๆ ของเมืองนั้น พวกเขาได้ยกให้แก่คาเลบบุตรชายของเยฟุนเนห์

57 แก่เชื้อสายทั้งหลายของอาโรน พวกเขาได้ให้เมืองเฮโบรน (เมืองลี้ภัยเมืองหนึ่ง) และเมืองลิบนาห์พร้อมกับทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน เมืองยาททีร์ เมืองเอชเทโมอากับทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน 58 เมืองฮีเลนพร้อมกับทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน และเมืองเดบีร์พร้อมกับทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน 59 พวกเขาได้ให้เชื้อสายของอาโรนคือ เมืองอาชานพร้อมกับทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน และเมืองเบธเชเมชพร้อมกับทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน 60 และจากเผ่าเบนยามินพวกเขาได้ให้เมืองเกบาพร้อมกับทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน เมืองอาเลเมทพร้อมกับทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน และเมืองอานาโธทพร้อมกับทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน เมืองเหล่านี้ทั้งสิ้นนับได้สิบสามเมือง เมืองเหล่านี้ได้ถูกแบ่งท่ามกลางตระกูลของโคฮาท ทั้งหมดสิบสามเมือง

61 ส่วนที่เหลือของตระกูลทั้งหลายของโคฮาทได้รับเมืองสิบเมืองจากการจับฉลากจากเผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่า 62 ให้กับเชื้อสายทั้งหลายของเกอร์โชมตามตระกูลต่างๆ สิบสามเมืองจากเผ่าต่างๆ ของอิสสาคาร์ เผ่าอาเชอร์ เผ่านัฟทาลี และจากเผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่าในบาชาน 63 ให้กับเชื้อสายของของเมรารีตามตระกูลของพวกเขาและตระกูล สิบสองเมืองจากเผ่ารูเบน เผ่ากาด และเผ่าเศบูลุน 64 ดังนั้นประชาชนอิสราเอลได้มอบเมืองต่างๆ เหล่านี้ กับทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมันให้แก่คนเลวี 65 พวกเขาได้รับเมืองต่างๆ ตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น จากเผ่ายูดาห์ เผ่าสิเมโอน และเผ่าเบนยามิน

66 บางส่วนของตระกูลของคนโคฮาทบางตระกูลได้รับเมืองต่างๆ จากดินแดนของพวกเผ่าเอฟราอิม 67 พวกเขาได้ให้ เมืองเชเคม (เมืองลี้ภัยเมืองหนึ่ง) กับทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมันในถิ่นภูเขาเอฟราอิม เมืองเกเซอร์พร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน 68 เมืองโยกเมอัมพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน เมืองเบธโฮโรนทุ่งหญ้าพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน 69 เมืองอัยยาโลนพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน เมืองกัทริมโมนพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน 70 จากเผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่าได้ให้กับคนโคฮาทคือ เมืองอาเนอร์พร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน เมืองบิเลอัมพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน เมืองเหล่านี้ได้ให้แก่ตระกูลทั้งหลายของคนโคฮาทที่เหลืออยู่

71 ให้กับเชื้อสายทั้งหลายของเกอร์โชมรับจากตระกูลเผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่าดังนี้ พวกเขาได้ให้โกลานในเมืองบาชานพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน และเมืองอัชทาโรทกับพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน 72 เผ่าอิสสาคาร์ได้ให้กับเชื้อสายทั้งหลายของเกอร์โชมคือเมืองเคเดชพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน เมืองดาเบรัทพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน 73 เมืองราโมทพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน และเมืองอาเนมพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน

74 อิสสาคาร์ได้รับจากเผ่าอาเชอร์คือ เมืองมาชาลพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน เมืองฮับโดนพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน 75 เมืองหุกอกพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน และเมืองเรโหบกับพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน 76 พวกเขาได้รับจากเผ่านัฟทาลีคือเมืองเคเดชในกาลิลีพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน เมืองฮัมโมนพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน เมืองคีริยาธาอิมพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน

77 ส่วนเชื้อสายทั้งหลายของเมรารีที่เหลืออยู่นั้นได้รับจากเผ่าเศบูลุนคือ เมืองโยกเนอัม เมืองคาร์ทาห์และเมืองริมโมโนพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน เมืองทาโบร์พร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน 78 และจากเผ่ารูเบนตรงข้ามแม่น้ำจอร์แดน ด้านตะวันออกเมืองเยรีโค พวกเขาได้รับเมืองเบเซอร์ในทะเลทราย เมืองยาซาห์ 79 เมืองเคเดโมทพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน และเมืองเมฟาอาทพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน 80 คนเลวีได้รับจากเผ่ากาดคือเมืองราโมทในกิเลอาดพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน เมืองมาหะนาอิมพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน 81 เมืองเฮสโบนพร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน และเมืองยาเซอร์พร้อมทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของมัน

7

1 บุตรชายสี่คนของอิสสาคาร์ คือ โทลา ปูอาห์ ยาชูบ และชิมโรน 2 บุตรชายทั้งหลายของโทลาคือ อุสซี เรไฟยาห์ เยรีเอล ยามัย ยิบสัม และเชมูเอล เขาทั้งหลายเป็นพวกหัวหน้าในเรือนของพวกบิดาของพวกเขา จากเชื้อสายทั้งหลายของโทลา และพวกเขาได้ถูกขึ้นบัญชีเป็นทแกล้วทหารท่ามกลางพงศ์พันธุ์ของพวกเขา และนับจำนวนได้ 22,600 คนในรัชสมัยของดาวิด

3 บุตรชายของอุสซีคือ อิสราหิยาห์ บุตรชายทั้งหลายของเขาคือ มีคาเอล โอบาดีห์ โยเอล และอิสชีอาห์ ทั้งหมดห้าคน พวกเขาเป็นหัวหน้าตระกูลทั้งหลาย 4 พร้อมกับคนเหล่านี้ พวกเขามีทหารสามหมื่นหกพันคนสำหรับการทำสงครามตามบัญชีรายชื่อตระกูลของบรรพบุรุษทั้งหลายของพวกเขา เพราะพวกเขามีภรรยาและบุตรชายหลายคน 5 พวกญาติพี่น้องของพวกเขาเป็นทแกล้วทหารจากคนในเผ่าอิสคาร์ และพวกเขานับจำนวนได้ทั้งหมดแปดหมื่นเจ็ดพันคน ตามบัญชีรายชื่อที่เป็นของตระกูลทั้งหลายของพวกบรรพบุรุษของพวกเขา

6 บุตรชายสามคนของเบนยามินคือ เบลา เบเคอร์ และเยดียาเอล 7 บุตรชายห้าคนของเบลาคือ เอสโบน อุสซี อุสซีเอล เยรีโมท และอิรี พวกเขาเป็นทหาร และต้นตระกูลทั้งหลาย พวกเขานับจำนวนได้ 22,034 คนที่เป็นทแกล้วทหาร ตามบัญชีทะเบียนสำมะโนครัวที่เป็นของตระกูลบรรพบุรุษของพวกเขา 8 บุตรชายทั้งหลายของเบเคอร์คือ เศมิราห์ โยอาช เอลีเยเซอร์ เอลีโอนัย อมรี เยเร โมท อาบียาห์ อานาโธท และอาเลเมท คนเหล่านี้ทั้งหมดเป็นบุตรชายทั้งหลายของเขา 9 บัญชีของตระกูลทั้งหลายของพวกเขานับจำนวนได้ 20,200 คน เป็นผู้นำครอบครัวทั้งหลาย และเป็นทแกล้วทหาร

10 บุตรชายของเยดียาเอลคือ บิลฮาน บุตรชายทั้งหลายของบิลฮานคือ เยอูช เบนยามิน เอฮูด เคนาอะนาห์ เศธาน ทารชิช และอาหิชาฮาร์ 11 ทั้งหมดนี้เป็นบุตรชายทั้งหลายของเยดียาเอล ตามบัญชีตระกูลของพวกเขา 17,200 คน เป็นผู้นำทั้งหลาย เป็นทแกล้วทหารพร้อมที่จะทำศึกสงคราม 12 (คนชุปปิม และคนหุปปิม เป็นบุตรชายทั้งหลายของอิระ และคนหุชิมเป็นบุตรชายของอาเฮอร์)

13 บุตรชายทั้งหลายของนัฟทาลีคือ ยาซีเอล กุนี เยเซอร์ และชัลลูม คนเหล่านี้เป็นลูกหลานของนางบิลฮาห์ 14 บุตรชายของมนัสเสห์คือ อัสรีเอลผู้ซึ่งภรรยาน้อยคนอารัมของเขาได้ให้กำเนิดแก่เขา นางได้ให้กำเนิดมาคีร์บิดาของกิเลอาดด้วย 15 มาคีร์ได้รับคนหุปปิมและคนชุปปิมมาเป็นภรรยา พี่สาวชื่อมาอาคาห์ เชื้อสายอีกคนหนึ่งของมนัสเสห์คือเศโลเฟหัดผู้ซึ่งมีเฉพาะบุตรหญิงทั้งหลายเท่านั้น 16 มาอาคาห์ภรรยาของมาคีร์ได้ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง นางได้เรียกชื่อเขาว่า เปเรช น้องชายของเขาชื่อเชเรช และบุตรชายทั้งหลายของเขาคือ อุลาม และราเคม

17 บุตรชายของอุลามคือเบดาน คนเหล่านี้เป็นเชื้อสายทั้งหลายของกิเลอาด ผู้เป็นบุตรชายมาคีร์ ผู้เป็นบุตรชายมนัสเสห์ 18 น้องสาวของกิเลอาดคือฮัมโมเลเคทได้ให้กำเนิดอิชโฮด อาบีเยเซอร์ และมาฮาลาห์ 19 บุตรชายทั้งหลายของเชมิดาคือ อาหิยัน เชเคม ลิคฮี และอานียัม

20 เชื้อสายทั้งหลายของเอฟราอิมมีดังต่อไปนี้ บุตรชายของเอฟราอิมคือชูเธลาห์ บุตรชายของชูเธลาห์คือเบเรด บุตรชายของเบเรดคือทาหัท บุตรชายของทาหัทคือเอลอาดาห์ บุตรชายของเอลอาดาห์คือทาหัท 21 บุตรชายของทาหัทคือศาบาด บุตรชายของศาบาดคือชูเธลาห์ (เอเซอร์และเอเลอัดซึ่งถูกฆ่าโดยผู้ชายทั้งหลายของเมืองกัทคนท้องถิ่นของแผ่นดินนั้น เมื่อเขาทั้งหลายได้ลงมาปล้นสัตว์เลี้ยงของพวกเขา 22 เอฟราอิมบิดาของพวกเขาไว้ทุกข์ให้พวกเขาเป็นหลายวัน และพี่น้องทั้งหลายของเขาก็ได้มาปลอบใจเขา 23 เอฟราอิมจึงเข้าไปหาภรรยาของเขา นางได้ตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง เอฟราอิมได้เรียกชื่อเขาว่า เบรียาห์ เพราะเหตุชั่วร้ายได้ตกอยู่กับครอบครัวของเขา

24 บุตรหญิงของเขาคือเชเอราห์ ผู้ซึ่งสร้างเมืองเบธโฮโรนล่างและบน และเมืองอุสเซนเชเอราห์ 25 บุตรชายของเขาชื่อเรฟาห์ บุตรชายของเรฟาห์คือเรเชฟ บุตรชายของเรเชฟคือเทลาห์ บุตรชายของเทลาห์คือทาหาน 26 บุตรชายของทาหานคือลาดาน บุตรชายของลาดานคืออัมมีฮูด บุตรชายของอัมมีฮูดคือเอลีชามา 27 บุตรชายของเอลีชามาคือนูน บุตรชายของนูนคือโยชูวา

28 ที่ดินกรรมสิทธิ์และภูมิลำเนาของเขาคือ เบธเอลพร้อมกับหมู่บ้านต่างๆ รอบๆ พวกเขาได้ขยายตัวไปทางด้านตะวันออกถึงเมืองนาอารัน และด้านตะวันตกถึงเมืองเกเซอร์ พร้อมกับบรรดาหมู่บ้านทั้งหลาย และไปถึงเชเคมพร้อมกับบรรดาหมู่บ้านทั้งหลาย ไปถึงเมืองอัยยาพร้อมกับบรรดาหมู่บ้านทั้งหลาย 29 ตามพรมแดนของคนมนัสเสห์ มีเมืองเบธชานพร้อมกับบรรดาหมู่บ้านทั้งหลาย เมืองทาอานาคพร้อมกับบรรดาหมู่บ้านทั้งหลาย เมืองเมกิดโดพร้อมกับบรรดาหมู่บ้านทั้งหลาย และเมืองโดร์พร้อมกับบรรดาหมู่บ้านทั้งหลาย ในเมืองทั้งหลายเหล่านี้บรรดาเชื้อสายทั้งหลายของโยเซฟบุตรชายของอิสราเอลได้อาศัยอยู่

30 บุตรชายทั้งหลายของอาเชอร์คือ อิมนาห์ อิชวาห์ อิชวี เบรียาห์ และเสราห์น้องหญิงของพวกเขา 31 บุตรชายของเบรียาห์คือ เฮเบอร์และมัลคีเอล ผู้เป็นบิดาของบิรซาวิธ 32 เฮเบอร์ให้กำเนิดบุตรชื่อยาเฟล็ท โชเมอร์ โฮธาม ชูวาเป็นน้องหญิงของพวกเขา 33 บุตรทั้งหลายของยาเฟล็ทคือ ปาสัค บิมฮาล และอัชวาท คนเหล่านี้เป็นบุตรทั้งหลายยาเฟล็ท

34 เชเมอร์ เป็นน้องชายของยาเฟล็ท มีบุตรชายทั้งหลายเหล่านี้คือ โรกาห์ เยฮุบบาห์ และอารัม 35 น้องชายของเชเมอร์คือเฮเลม มีบุตรชายทั้งหลายของเขาคือ โศฟาห์ อิมนา เชเลช และอามัล 36 บุตรชายของโศฟาห์คือ สุอาห์ ฮารเนเฟอร์ ชูอัล เบรี อิมราห์ 37 เบเชอร์ โฮด ชัมมา ชิลชาห์ อิธราน และเบโรา 38 บุตรชายทั้งหลายของเยเธอร์คือ เยฟุนเนห์ ปิสปา และอารา 39 บุตรชายทั้งหลายของอุลลาคือ อาราห์ ฮันนีเอล และรีเซีย 40 คนทั้งสิ้นเหล่านี้เป็นเชื้อสายของอาเชอร์ พวกเขาเป็นบรรพบุรุษทั้งหลายของตระกูลทั้งหลาย ผู้นำของครอบครัวทั้งหลายของพวกเขา เป็นผู้ชายที่โดดเด่น ทแกล้วทหาร และเป็นหัวหน้าท่ามกลางพวกผู้นำ จำนวนทั้งสิ้นสองหมื่นหกพันคน ผู้ซึ่งเหมาะสมสำหรับการสงคราม ตามจำนวนบัญชีรายชื่อของพวกเขา

8

1 บุตรชายห้าคนของเบนยามินคือ เบลาบุตรชายหัวปีของเขา อัชเบล อาหะราห์ 2 โนฮาห์ และราฟา 3 บุตรของเบลาคือ อัดดาร์ เกรา อาบีฮูด

4 อาบีชูวา นาอามาน อาโหอาห์ 5 เกรา เชฟูฟาน และหุราม 6 คนเหล่านี้เป็นเชื้อสายทั้งหลายของเอฮูด ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าบรรดาเหล่าตระกูลที่อาศัยในเมืองเกบา ผู้ซึ่งถูกบังคับให้ย้ายไปยังเมืองมานาฮาท

7 คือนาอามาน อาหิยาห์ และเกรา ผู้ได้พาพวกเขาไปในการย้ายของพวกเขา เขาเป็นบิดาของอุสซา และอาหิฮูด 8 ชาหะราอิมมีบุตรหลายคนในดินแดนโมอับ ภายหลังที่เขาได้หย่าภรรยาทั้งหลายของเขาคือนางหุชิมและนางบาอารา 9 โดยนางโฮเดชภรรยาของเขา ชาหะราอิมเป็นบิดาของโยบับ ศิเบีย เมชา มัลคาม 10 เยอูส สาเคีย และมิรมาห์ คนเหล่านี้เป็นบุตรชายทั้งหลายของเขา เป็นพวกผู้นำในตระกูลต่างๆ ของพวกเขา

11 เขาได้มีบุตรกับนางหุชิมคืออาบีทูบและเอลปาอัล 12 บุตรชายทั้งหลายของเอลปาอัลคือเอเบอร์ มิชอัม และเชเมด (ผู้สร้างเมืองโอโน และเมืองโลดพร้อมกับหมู่บ้านทั้งหลายโดยรอบ) 13 ยังมีเบรียาห์ และเชมาด้วย เขาทั้งหลายเป็นหัวหน้าของตระกูลทั้งหลายที่อาศัยในเมืองอัยยาโลน ผู้ที่ได้ขับไล่ชาวเมืองกัทไป

14 เบรียาห์ มีบุตรชายทั้งหลายคืออาหิโย ชาชัก และเยเรโมท 15 เศบาดิยาห์ อาราด เอเดอร์ 16 มีคาเอล อิชปาห์ และโยฮา 17-18 เอลปาอัลมีบุตรชายทั้งหลายคือเศบาดิยาห์ เมชุลลาม ฮิสคี เฮเบอร์ อิชเมรัย อิสลิยาห์ และโยบับ

19-20 บุตรชายทั้งหลายของชิเมอี คือยาคิม ศิครี ศับดี เอลีเยนัย ศิลเลธัย เอลีเอล อาดายาห์ เบไรอาห์ 21 และชิมราท

22-23 บุตรชายทั้งหลายของชาชักคือ 24 อิชปาน 25 เอเบอร์ 26 เอลีเอล 27 อับโดน ศิครี ฮานาน ฮานันยาห์ เอลาม อันโธธียาห์ อิฟไดยาห์ และเปนูเอล 28 คนเหล่านี้เป็นบรรดาหัวหน้าของพวกตระกูล และพวกผู้นำที่อาศัยในเยรูซาเล็ม

29 บิดาของกิเบโอนคือ เยอิเอลผู้ซึ่งมีภรรยาชื่อมาอาคาห์ ได้อาศัยในเมืองกิเบโอน 30 บุตรหัวปีของท่านคืออับโดน แล้วก็มี ศูร์ คีช บาอัล นาดับ 31 เกโดร์ อาหิโย และเศเคอร์ 32 บุตรชายทั้งหลายของเยอิเอลอีกคนหนึ่งคือมิกโลท ผู้เป็นบิดาของชิเมอาห์ พวกเขาได้อาศัยอยู่ใกล้กับญาติทั้งหลายของพวกเขาในเยรูซาเล็ม

33 เนอร์เป็นบิดาของคีช คีชเป็นบิดาของซาอูล ซาอูลเป็นบิดาของโยนาธาน มัลคีชูวา อาบีนาดับ และเอชบาอัล 34 บุตรชายของโยนาธานคือเมริบบาอัล เมริบบาอัลเป็นบิดาของมีคาห์ 35 บุตรชายทั้งหลายของมีคาห์คือปีโธน เมเลค ทาเรีย และอาหัส 36 อาหัสเป็นบิดาของเยโฮอัดดาห์ เยโฮอัดดาห์เป็นบิดาของอาเลเมท อัสมาเวท และศิมรี ศิมรีเป็นบิดาของโมซา

37 โมซาเป็นบิดาของบิเนอา บิเนอาเป็นบิดาของราฟาห์ ราฟาห์เป็นบิดาของเอเลอาสาห์ เอเลอาสาห์เป็นบิดาของอาเซล 38 อาเซลมีบุตรชายหกคน คืออัสรีคัม โบเครู อิชมาเอล เชอาริยาห์ โอบาดีย์ และฮานัน ทั้งหมดนี้เป็นบุตรของอาเซล 39 บุตรชายทั้งหลายของเอเชก น้องชายของเขาคือ อุลามบุตรหัวปีของเขา เยอูชคนที่สอง และเอลีเฟเลทคนที่สาม 40 บุตรชายทั้งหลายของอุลามเป็นเหล่านักรบกล้าหาญ เป็นพวกนักธนู พวกเขามีบุตรชายหลายคนและหลานมากมายจำนวนทั้งสิ้น 150 คน คนทั้งหมดนี้เป็นเชื้อสายทั้งหลายของเบนยามิน

9

1 ดังนั้นรายชื่อคนอิสราเอลทั้งหมดได้ถูกบันทึกไว้ในลำดับพงศ์ พวกเขาถูกบันทึกไว้ในสมุดของกษัตริย์อิสราเอล เหมือนยูดาห์ที่พวกเขาได้ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยในบาบิโลนเพราะความบาปของพวกเขา 2 คนกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานอีกครั้งในเมืองทั้งหลายของพวกเขาคือบางส่วนของคนอิสราเอล พวกปุโรหิต พวกเลวี และคนรับใช้ทั้งหลายของพระวิหาร 3 เชื้อสายบางส่วนของยูดาห์ เบนยามิน เอฟราอิม และมนัสเสห์ที่ได้อาศัยในเยรูซาเล็ม 4 บรรดาผู้ตั้งถิ่นฐานรวมทั้งอุทัยบุตรชายของอัมมีฮูด บุตรชายของอมรีบุตรชายของอัมรีบุตรชายของบานี หนึ่งในเชื้อสายทั้งหลายของเปเรศบุตรชายของยูดาห์

5 ท่ามกลางคนชิโลห์คืออาสายาห์บุตรชายหัวปีและบุตรชายทั้งหลายของเขา 6 ท่ามกลางเชื้อสายทั้งหลายของเศราห์คือเยอูเอล เชื้อสายทั้งหลายของพวกเขานับจำนวนได้ 690 คน 7 ท่ามกลางเชื้อสายทั้งหลายของเบนยามินคือสัลลูบุตรชายของเมชุลลามบุตรชายของโฮดาวิยาห์บุตรชายของหัสเสนูอาห์ 8 ยังมีอิบเนยาห์บุตรชายของเยโรฮัมด้วย คือเอลาห์บุตรชายของอุสซีบุตรชายของมิครี และเมสุนลามบุตรชายของเชฟาทิยาห์บุตรชายของเรอูเอลบุตรชายของอับนียาห์ 9 ญาติทั้งหลายของพวกเขาได้ถูกเขียนไว้ในบัญชีรายชื่อลำดับพงศ์นับจำนวนได้ 956 คน ผู้ชายเหล่านี้ทั้งหมดเป็นพวกผู้นำในตระกูลทั้งหลายของเหล่าบรรพบุรุษของพวกเขา

10 พวก​ปุโร​หิตคือ​เย​ดา​ยาห์ เย​โฮ​ยา​ริบ และยา​คีน 11 มีอาซาริยาห์บุตรชายของฮิลคียาห์ด้วย บุตรชายของเมชุลลามบุตรชายของศาโดกบุตรชายของเมราโยทบุตรชายของอาหิทูบ ผู้รับผิดชอบพระนิเวศของพระเจ้า 12 มีอาดายาห์บุตรชายของเยโรฮัมบุตรชายของปาชเออร์บุตรชายของมัลคียาห์ ยังมีอามาสัยบุตรชายของอาดีเอลด้วย บุตรชายของยาเซราห์บุตรชายของเมชุลลามบุตรชายของเมชิลเลมิทบุตรชายของอิมเมอร์ 13 ญาติทั้งหลายของพวกเขาผู้ซึ่งเป็นพวกผู้นำในพวกตระกูลบรรพบุรุษของพวกเขา นับจำนวนคนได้ 1,760 คน พวกเขาเป็นผู้ที่มีความสามารถในการทำงานในพระนิเวศของพระเจ้า

14 ท่ามกลาง​คน​เลวี มี​เช​ไม​อาห์​ผู้​เป็น​บุตร​ชายของหัส​ชูบบุตรชายของอัสรีคัมบุตรชายของฮาซาบิยาห์ ท่ามกลางเชื้อสายทั้งหลายของเมรารี 15 ยังมีบัคบัคคาร์ เฮเรส กาลาล และมัทธานิยาห์บุตรชายของมีคาบุตรชายของศิครีบุตรชายของอาสาฟ 16 ยังมีโอบาดีห์บุตรชายของเชไมอาห์ด้วย บุตรชายของกาลาลบุตรชายของเยดูธูน และเบเรคยาห์บุตรชายของอาสาบุตรชายของเอลคานาห์ผู้ที่ได้อาศัยในหมู่บ้านทั้งหลายของคนเนโทฟาห์

17 บรรดาผู้ดูแลประตูทั้งหลายคือ ชัล​ลูม อัก​ขูบ ทัล​โมน อา​หิ​มาน และ​เชื้อสายทั้งหลาย​ของ​พวก​เขา ชัล​ลูม​เป็น​ผู้นำของพวกเขา 18 ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ยืนรักษาการอยู่ที่ประตูกษัตริย์ทางด้านทิศตะวันออก สำหรับค่ายของเชื้อสายทั้งหลายของคนเลวี 19 ชัลลูมบุตรชายของโคเรบุตรชายของเอบียาสาฟ ผู้ซึ่งเป็นบุตรชายของโคราห์ และญาติทั้งหลายของเขาจากครัวเรือนของบิดาของเขา คนโคราห์ได้รับผิดชอบงานบริการ พวกเขาได้รักษาประตูเข้าเต็นท์เหมือนพวกบรรพบุรุษของพวกเขาที่ได้รักษาค่ายของพระยาห์เวห์และพวกเขาได้รักษาทางเข้านั้นด้วย 20 ฟีเนหัสบุตรชายของเอเลอาซาร์ได้รับผิดชอบงานนี้ในอดีต และพระยาห์เวห์ได้ทรงอยู่ด้วยกับเขา 21 เศคาริยาห์บุตรชายของเมเชเลมิยาห์คือผู้รักษาทางเข้าพระวิหารคือ "เต็นท์นัดพบ"

22 คนทั้งหมดเหล่านี้ผู้ซึ่งถูกเลือกเป็นเหล่าคนเฝ้าประตู ที่ทางเข้าทั้งหลายนับจำนวนได้ 212 คน ชื่อของพวกเขาได้ถูกบันทึกในบันทึกของประชาชนในหมู่บ้านทั้งหลายของพวกเขา ดาวิดและซามูเอลผู้ดูแลได้ตั้งพวกเขาในตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ 23 ดังนั้นพวกเขาและบุตรทั้งหลายของพวกเขาได้รักษาประตูทั้งหลายของพระนิเวศของพระยาห์เวห์คือพลับ 24 ผู้รักษาประตูทั้งหลายได้ถูกตั้งทั้งสี่ด้าน ทิศตะวันออก ตะวันตก เหนือ และใต้ 25 พวกพี่น้องของพวกเขาผู้ที่ได้อาศัยในหมู่บ้านทั้งหลายของพวกเขา ได้หมุนเวียนเข้ามาทำงานทุกเจ็ดวัน 26 แต่พวกผู้นำสี่คนที่รักษาประตูทั้งหลายได้แก่ คนเลวีได้รับมอบหมายให้รักษาห้องทั้งหลายและห้องพัสดุทั้งหลายในพระนิเวศของพระเจ้า 27 พวกเขาจะอยู่ทั้งคืนในตำแหน่งทั้งหมดรอบๆ พระนิเวศของพระเจ้า เพราะพวกเขาได้รับผิดชอบการรักษาพระนิเวศ พวกเขาจะเปิดพระนิเวศทุกเช้า

28 ส่วนหนึ่งของพวกเขาได้ดูแลอุปกรณ์ของพระวิหารคือ พวกเขาได้นับสิ่งต่างๆ เมื่อสิ่งเหล่านั้นได้ถูกนำเข้ามาหรือเอาออกไป 29 ส่วนหนึ่งของพวกเขาได้ถูกกำหนดให้ดูแลสิ่งต่างๆ ที่บริสุทธิ์ อุปกรณ์ และเครื่องใช้ รวมทั้งแป้งอย่างดี เหล้าองุ่น น้ำมัน เครื่องหอม และเครื่องเทศ 30 พวกบุตรชายของปุโรหิตบางส่วนได้ผสมเครื่องเทศ 31 มัททียาห์ คนเลวีคนหนึ่งผู้ซึ่งเป็นบุตรหัวปีของชัลลูม คนโคราห์ได้รับผิดชอบเตรียมขนมปังสำหรับการถวาย 32 พี่น้องบางส่วนของพวกเขา เชื้อสายทั้งหลายของคนโคราห์ได้รับผิดชอบการตั้งขนมปัง และจัดเตรียมขนมปังทุกวันสะบาโต

33 บรรดานักร้อง และผู้นำทั้งหลายของครอบครัวคนเลวีได้อาศัยในห้องทั้งหลายที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เมื่อพวกเขาว่างจากการทำงานเพราะพวกเขาต้องทำงานตามที่ได้รับมอบหมายในเวลากลางวันและกลางคืน 34 คนเหล่านี้คือครอบครัวผู้นำทั้งหลายท่ามกลางคนเลวี ตามบัญชีที่ได้ถูกบันทึกไว้ในบันทึกพงศ์ของพวกเขา พวกเขาได้อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม

35 บิดาของกิเบโอนคือ เยอิเอล ผู้ซึ่งภรรยาของเขาชื่อมาอาคาห์ที่ได้อาศัยในกิเบโอน 36 บุตรชายคนหัวปีของเขาคือ อับโดน และบุตรชายทั้งหลายของเขาคือ ศูร์ คีช บา​อัล เนอร์ นา​ดับ 37 เก​โดร์ อา​หิ​โย เศ​คา​ริ​ยาห์ และ​มิก​โลท 38 ​มิก​โลท​เป็น​บิดา​ของ​ชิ​เม​อัม พวกเขาได้อาศัยอยู่ใกล้พวกพี่น้องของพวกเขาในเยรูซาเล็ม

39 เนอร์​เป็น​บิดา​ของ​คีช คีช​เป็น​บิดา​ของ​ซาอูล ซาอูล​เป็น​บิดา​ของ​โย​นา​ธาน มัลคีชูวา อา​บี​นา​ดับ และ​เอช​บา​อัล 40 บุตรชายของ​โย​นา​ธานคือ​เม​ริบ​บา​อัล ​เม​ริบ​บา​อัล​เป็น​บิดา​ของ​มี​คาห์ 41 บุตรชายทั้งหลาย​ของ​มี​คาห์​คือ​ปิ​โธน เม​เลค ทา​เรีย และ​อา​หัส 42 ​อา​หัส​เป็น​บิดา​ของ​ยา​ราห์ ​ยา​ราห์​เป็น​บิดา​ของ​อา​เล​เมท อัส​มา​เวท และ​ศิม​รี ​ศิม​รี​เป็น​บิดา​ของ​โม​ซา 43 โม​ซา​เป็น​บิดา​ของ​บิเน​อา ​บิเน​อาเป็นบิดาของ​เร​ไฟ​ยาห์ ​เร​ไฟ​ยาห์เป็นบิดาของ​เอ​เล​อา​สาห์ เอเลอาสาห์เป็นบิดาของ​อา​เซล 44 อา​เซล​มี​บุตร​ชายหกคน​คือ อัส​รี​คัม โบ​เค​รู อิช​มา​เอล เช​อา​ริ​ยาห์ โอ​บา​ดีห์ และ​ฮา​นัน คนเหล่า​นี้​เป็น​บุตร​ชายทั้งหลายของอา​เซล

10

1 บัดนี้คนฟีลิสเตียได้ทำสงครามต่อสู้คนอิสราเอล ผู้ชายอิสราเอลทุกคนได้แตกหนีไปต่อหน้าคนฟีลิสเตียและล้มลงเสียชีวิตบนภูเขากิลโบอา 2 พวกคนฟีลิสเตียได้ยกเข้ามาใกล้จะตามทันซาอูลและพระโอรสของพระองค์ พวกคนฟีลิสเตียได้ฆ่าพระโอรสทั้งหลายของพระองค์คือ โยนาธัน อาบีนาดับ และมัลคีชูอา

3 การสู้รบหนักได้เข้ามาประชิดซาอูล พวกพลธนูได้ยิงพระองค์ ทำให้พระองค์ทรงได้รับบาดเจ็บ 4 ซาอูลได้ตรัสกับผู้ถืออาวุธประจำพระองค์ว่า “จงดึงดาบของเจ้าออกมา และแทงเราให้ทะลุ มิฉะนั้นพวกคนที่มิได้เข้าสุหนัตเหล่านี้จะเข้ามาและทำร้ายเรา” แต่ผู้ถืออาวุธประจำพระองค์ไม่กล้าเพราะเขากลัวมาก ดังนั้นซาอูลจึงได้ชักดาบของพระองค์ออกและล้มทับดาบนั้น 5 เมื่อผู้ถืออาวุธประจำพระองค์ได้เห็นว่าซาอูลได้ทรงสิ้นพระชนม์แล้ว เขาก็ได้ทำอย่างเดียวกันคือล้มทับดาบของตนและเสียชีวิตด้วย 6 ดังนั้นซาอูลได้ทรงสิ้นพระชนม์พร้อมกับพระโอรสทั้งสามพระองค์ พระราชวงศ์ทั้งหมดของพระองค์ก็ได้ทรงสิ้นพระชนม์ด้วยกัน

7 เมื่อพวกผู้ชายอิสราเอลทุกคนในหุบเขาได้เห็นการที่ซาอูลและพวกพระโอรสของพระองค์ได้ทรงสิ้นพระชนม์ พวกเขาก็ได้แตกหนี พวกเขาได้ละทิ้งเมืองทั้งหลายของพวกเขาและหนีไป จากนั้นพวกฟีลิสเตียได้เข้ามาและได้อาศัยอยู่แทน 8 ในวันต่อมาเมื่อพวกฟีลิสเตียได้เข้ามาปลดเสื้อผ้าของผู้ที่เสียชีวิต พวกเขาได้พบพระศพของซาอูลกับพวกพระโอรสของพระองค์บนภูเขากิลโบอา 9 พวกเขาได้ถอดเครื่องทรงพระองค์ เอาพระเศียรและอาวุธของพระองค์ไป พวกเขาได้ให้คนส่งข่าวไปทั่วฟีลิสเตีย ส่งข่าวไปยังพวกรูปเคารพและพวกประชาชนทั้งหลายของพวกเขา

10 พวกเขาได้นำเอาอาวุธของพระองค์ไปไว้ในวิหารเทพเจ้าทั้งหลายของพวกเขา และมัดพระเศียรของพระองค์ไว้ในวิหารของพระดาโกน 11 เมื่อคนยาเบชกิเลอาดทั้งหมดได้ยินทุกสิ่งที่คนฟีลิสเตียได้กระทำแก่ซาอูล 12 พวกผู้ชายนักรบทั้งหมดได้ออกไป และชิงเอาพระศพของซาอูลและพวกพระโอรสของพระองค์ และนำไปไว้ที่ยาเบช พวกเขาได้ฝังกระดูกของพวกเขาใต้ต้นโอ๊คในเยเบชและได้อดอาหารเป็นเวลาเจ็ดวัน

13 ดังนั้นซาอูลทรงสิ้นพระชนม์เพราะพระองค์ไม่ทรงสัตย์ซื่อต่อพระยาห์เวห์ พระองค์ไม่ทรงเชื่อฟังพระบัญชาทั้งหลายของพระยาห์เวห์ แต่ได้ตรัสถามหาคำแนะนำจากบางคนผู้ซึ่งได้พูดกับคนตาย 14 พระองค์ไม่ได้ทรงแสวงหาการทรงนำจากพระยาห์เวห์ ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงได้ทรงประหารพระองค์และมอบราชอาณาจักรแก่ดาวิดบุตรชายของเจสซี

11

1 จากนั้นคนอิสราเอลทั้งหมดได้มาหาดาวิดที่เมืองเฮโบรน และทูลว่า "ดูเถิด พวกข้าพระองค์เป็นเนื้อและกระดูกของพระองค์ 2 ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อซาอูลได้ทรงเป็นกษัตริย์ปกครองพวกข้าพระองค์ เป็นพระองค์ผู้ที่ได้ทรงนำกองทัพอิสราเอล พระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ได้ตรัสกับพระองค์ 'เจ้าจะดูแลคนอิสราเอลประชาชนของเราและเจ้าจะเป็นเจ้านายเหนืออิสราเอลประชาชนของเรา'" 3 ดังนั้นผู้อาวุโสทั้งหลายของคนอิสราเอลได้เข้ามาหากษัตริย์ที่เมืองเฮโบรน และดาวิดได้ทำพันธสัญญากับพวกเขาต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ พวกเขาได้เจิมดาวิดเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล โดยการนี้ พระวจนะของพระยาห์เวห์ที่ประกาศโดยซามูเอลจึงเป็นความจริง

4 ดาวิดและคนอิสราเอลทุกคนได้ขึ้นไปยังเยรูซาเล็ม (นั่นคือคนเยบุส) ขณะนั้นคนเยบุสคือผู้อาศัยของแผ่นดินอยู่ที่นั่น 5 คนเยบุสทั้งหลายที่อาศัยอยู่ที่นั่นพูดกับดาวิดว่า "ท่านจะเข้ามาที่นี่ไม่ได้" แต่ดาวิดได้ยึดป้อมศิโยน นั่นคือเมืองดาวิด 6 ดาวิดตรัสว่า "คนแรกที่โจมตีคนเยบุสจะได้เป็นผู้บังคับบัญชา" ดังนั้นโยอาบบุตรชายของนางเศรุยาห์โจมตีได้เป็นคนแรก และเขาจึงได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บังคับบัญชา 7 จากนั้นดาวิดได้ประทับอยู่ที่ป้อมนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงเรียกมันว่านครดาวิด 8 พระองค์ได้ทรงเสริมเมืองโดยรอบให้แข็งแรงมากขึ้น ตั้งแต่ป้อมมิลโล และเสริมกำแพงล้อมรอบ โยอาบก็เสริมส่วนที่เหลือของเมืองนั้น 9 ดาวิดได้ทรงยิ่งใหญ่มากขึ้น และมากขึ้นเพราะพระยาห์เวห์จอมเจ้านายสถิตกับพระองค์

10 คนเหล่านี้คือพวกผู้นำภายใต้ดาวิด ผู้ที่ได้แสดงว่าพวกเขาเป็นคนที่เข้มแข็งอยู่กับพระองค์ในอาณาจักรของพระองค์ร่วมกับคนอิสราเอลทั้งหมดที่สนับสนุนพระองค์เป็นกษัตริย์ การเชื่อถ้อยคำของพระยาห์เวห์เกี่ยวกับอิสราเอล 11 นี่คือบัญชีรายชื่อยอดทหารทั้งหลายของดาวิดคือ​ยา​โช​เบ​อัม​บุตร​ชายของคนฮัค​โม​นี เป็นผู้บังคับบัญชาทหารสามสิบนาย เขาได้ฆ่าผู้ชายสามร้อยคนด้วยหอกของเขาในครั้งเดียว

12 ถัดจากเขาคือเอ​เล​อา​ซาร์​บุตรชายของ​โดโด คน​อา​โห​อาห์ ผู้ซึ่ง​เป็น​หนึ่ง​ใน​สามของยอดทหาร​นั้น 13 เขาได้อยู่กับดาวิดที่​ปัส​ดัม​มิม และที่​นั่นคน​ฟีลิส​เตียได้​ชุม​นุม​กัน​เพื่อทำ​สง​คราม​ มี​ข้าว​บาร์​เลย์​แปลง​หนึ่งและ​กองทัพได้แตกหนี​พวก​ฟีลิส​เตีย 14 พวกเขาได้ยืนอยู่กลางทุ่งนา พวกเขาได้เอาชนะและฆ่าพวกคนฟีลิสเตีย และพระยาห์เวห์ทรงช่วยกู้พวกเขาด้วยชัยชนะอันยิ่งใหญ่

15 จากนั้นสามยอดทหารของพวกผู้นำสามสิบคนได้ลงมาหาดาวิดที่ศิลานั้น ที่ถ้ำอดุลลัม กองทัพฟีลิสเตียได้ตั้งค่ายในหุบเขาเรฟาอิม 16 ในเวลานั้นดาวิดได้อยู่ในที่มั่นของพระองค์ ในถ้ำ ในขณะที่พวกฟีลิสเตียได้ตั้งค่ายของพวกเขาที่เบธเลเ​ฮม 17 ดาวิดกระหายน้ำและตรัสว่า "ถ้ามีใครสักคนจะไปเอาน้ำจากบ่อน้ำที่อยู่ข้างประตูเมืองเบธเลเฮมมาให้เราดื่มก็คงจะดี" 18 ดังนั้นยอดทหารทั้งสามได้บุกฝ่ากองทัพพวกฟีลิสเตียเข้าไปและตักน้ำจากบ่อน้ำที่ข้างประตูเมืองเบธเลเฮม พวกเขาได้นำน้ำนั้นกลับมาถวายดาวิด พระองค์ได้ทรงปฏิเสธที่จะดื่ม แต่ได้ทรงเทน้ำนั้นออกถวายแก่พระยาห์เวห์ 19 และพระองค์ได้ตรัสว่า "ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอให้สิ่งนี้อยู่ห่างไกลจากข้าพระองค์เถิด ควรหรือที่ข้าพระองค์จะดื่มน้ำนี้ ควรหรือที่ข้าพระองค์จะดื่มโลหิตของพวกผู้ชายผู้ที่เสี่ยงชีวิตของพวกเขา?" เพราะว่าพวกเขาได้เสี่ยงชีวิตของพวกเขา พระองค์ได้ปฏิเสธที่จะดื่มน้ำนั้น สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ยอดทหารทั้งสามคนได้ทำ

20 อาบีชัยน้องชายของโยอาบได้เป็นผู้บังคับบัญชายอดทหารทั้งสามนาย ครั้งหนึ่งเขาเคยใช้หอกของเขาสู้กับคนสามร้อยคนและฆ่าพวกเขาทั้งหลาย เขาได้ถูกกล่าวถึงร่วมกับยอดทหารทั้งสาม 21 เขาได้รับเกียรติเป็นสองเท่าของยอดทหารทั้งสามและได้เป็นผู้บังคับบัญชาของพวกเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่หนึ่งในทหารสามนายนั้น

22 เบไนยาห์บุตรชายของเยโฮยาดาเป็นผู้ชายแข็งแรงผู้ซึ่งได้ทำการอย่างกล้าหาญหลายอย่าง เขาได้ฆ่าบุตรชายสองคนของอารีเอลคนโมอับ เขาได้ลงไปในบ่อและฆ่าสิงโตตัวหนึ่งในขณะที่หิมะกำลังตก 23 เขาได้ฆ่าคนอียิปต์คนหนึ่ง ผู้ชายที่สูงห้าศอก ผู้ชายอียิปต์ที่มีหอกเหมือนไม้กระพั่นแต่เขาได้ลงไปหาผู้ชายคนนี้ด้วยไม้เท้าอันเดียว เขาได้ดึงหอกออกจากมือของคนอียิปต์และได้ฆ่าเขาด้วยหอกของเขาเอง 24 เบไนยาห์บุตรชายของเยโฮยาดาได้ทำการกล้าหาญเหล่านี้ และเขาได้ถูกกล่าวชื่อไปพร้อมกับยอดทหารทั้งสามนาย 25 เขาได้รับการยกย่องมากกว่าทหารสามสิบนายในด้านทั่วๆ ไป แต่เขาไม่ได้รับการยกย่องมากมายเท่ากับยอดทหารทั้งสามนาย ดาวิดได้ตั้งเขาเป็นราชองครักษ์ของพระองค์

26 ​พวก​ทแกล้ว​ทหาร​​คือ​อาสา​เฮล น้อง​ชาย​ของ​โยอาบ เอล​ฮานัน​บุตรชายของ​โด​โดคน​เบธเลเฮม​ 27 ชัม​โมท​คน​ฮา​โรด เฮเลสคนเป​โลน​ 28 อิ​รา​บุตรชายของ​อิก​เขชคน​เท​โค​อา อา​บี​เย​เซอร์​คน​อา​นาโธท​ 29 สิบ​เบคัยคนหุ​ชาห์ อิ​ลัย คน​อาโห​อาห์​ 30 มา​หะ​รัยคนเน​โทฟาห์ ​เฮเลด บุตรชายของ​บา​อา​นาห์​คนเน​โทฟาห์

31 อิธัย​บุตรชายของ​รีบัย แห่ง​เมือง​กิเบ​อาห์​ของ​คน​เบน​ยา​มิน เบ​ไน​ยาห์​คนปิ​ราโธน​ 32 หุ​รัยคน​หุบเขา​กาอัช อา​บี​เอล คน​อารบาห์​ 33 อัส​มา​เวทคน​บาฮู​ริม เอ​ลี​ยา​บาคน​ชาอัล​โบน 34 บุตร​ชายทั้งหลายของ​ฮาเชมคน​กิม​โซ โย​นาธาน บุตร​ชายของชากีคน​ฮา​ราห์​ 35 อาหิ​อัม​บุตร​ชายของสา​คาร์คน​ฮา​ราห์ เอ​ลี​ฟัล​บุตรชายของ​อู​ระ

36 เฮ​เฟอร์​คน​เมเคราไธด์ อาหิ​ยาห์​คนเป​โลน​ 37 เฮสโรคน​คาร​เมล นา​อา​รัย​บุตรชายของ​เอสบัย​ 38 โย​เอลน้อง​ชายของนาธัน มิบ​ฮาร์บุตรชายของ​ฮา​กรี​ 39 เศ​เลกคน​อัม​โมน นา​หะ​รัยคนเบ​เอ​โรท (ผู้​ถือ​อาวุธ​ประจำตัวของ​โยอาบ บุตรชายของ​นาง​เศ​รุ​ยาห์)​ 40 อิ​รา คน​อิท​ไรต์ กาเรบคน​อิท​ไรต์​

41 อุ​รี​ยาห์คน​ฮิตไทต์ ศา​บาด บุตรชายของอัค​ลัย​ 42 อา​ดี​นา​บุตรชายของ​ชิ​ซา คน​รู​เบน (หัวหน้า​คน​หนึ่ง​ของ​คน​รู​เบน) และ​ทหารสามสิบ​นาย​ด้วย​กัน​กับ​เขา​ 43 ฮานัน​บุตร​ชายของมา​อา​คาห์ และ​โย​ชา​ฟัท​คน​มิท​เน​ 44 อุส​ชี​ยาคนอัช​ทา​โรท ชา​มา​และ​เย​อี​เอล บุตรชายทั้งหลายของ​โฮธามคน​อา​โร​เออร์​ 45 เย​ดียา​เอล บุตรชายของ​ชิม​รี ​โย​ฮา (น้อง​ชายของ​เขา คนทิ​ไซ)

46 เอ​ลี​เอล คน​มา​หะ​ไวต์ ​เย​รีบัย และโย​ชา​วิ​ยาห์ บุตรชายของ​เอล​นา​อัม อิท​มาห์​คน​โม​อับ​ 47 เอ​ลี​เอล ​โอเบด และ​ยา​อา​ซี​เอล คน​เม​โซบัย​

12

1 ผู้ชายเหล่านี้ได้มาหาดาวิดที่ศิกลาก ขณะที่เขาถูกขับออกไปให้พ้นจากพระพักตร์ของซาอูล บุตรชายของคีช เขาทั้งหลายอยู่ในท่ามกลางพวกทหาร พวกผู้ช่วยของเขาในการรบ 2 พวกเขาติดอาวุธคือธนูและสามารถใช้ได้ทั้งมือซ้ายมือขวาในการเหวี่ยงหินด้วยสลิงและยิงธนู พวกเขาเป็นคนเบนยามิน คนเผ่าเดียวกับซาอูล

3 อาหิเยเซอร์เป็นหัวหน้า ถัดไปคือโยอาชทั้งสองเป็นบุตรชายของเชมาอาห์คนเมืองกิเบอาห์ มีเยซีเอลกับเปเลทบุตรชายของอัสมาเวท มีเบราคาห์ เยฮูคนอานาโธทด้วย 4 อิชมัยยาห์คนกิเบโอน ทหารคนหนึ่งในพวกทหารสามสิบนายนั้น (และอยู่ในบังคับบัญชาของทหารสามสิบนายนั้น) เยเรมีย์ ยาซีเอล โยฮานัน โยซาบาด คนเกเดราห์ 5 เอลูซัย เยรีโมท เบอัลยาห์ เชมาริยาห์ เชฟาทิยาห์คนฮารูฟ 6 คนโคราห์คือเอลคานาห์ อิสซีอาห์ อาซาเรล โยเอเซอร์ ยาโชเบอัม และ 7 โยเอลาห์และเศบาดิยาห์ บุตรชายของเยโรฮัมแห่งเกโดร์

8 คนกาดบางส่วนได้มาร่วมกับดาวิด ณ ที่มั่นอันแข็งแรงในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาเป็นผู้ชายที่ชำนาญในการสู้รบผู้ซึ่งถูกฝึกมาเพื่อการสู้รบ พวกเขาสามารถถือโล่และหอก หน้าของพวกเขาดุร้ายเหมือนหน้าพวกสิงโต พวกเขารวดเร็วเหมือนละมั่งบนภูเขา 9 มีเอเซอร์เป็นผู้นำ โอบาดีห์ลำดับที่สอง เอลีอับลำดับที่สาม 10 มิชมันนาห์ลำดับที่สี่ เยเรมีย์ลำดับที่ห้า 11 อัททัยลำดับที่หก เอลีเอลลำดับที่เจ็ด 12 โยฮานันลำดับที่แปด เอลซาบาดลำดับที่เก้า 13 เยเรมีย์ลำดับที่สิบ มัคบันนัยลำดับที่สิบเอ็ด

14 คนเหล่านี้เป็นบุตรชายของกาดซึ่งเป็นผู้นำของกองทัพ เป็นผู้นำทหารอย่างน้อยหนึ่งร้อยนาย และมากที่สุดเป็นผู้นำทหารหนึ่งพันนาย 15 พวกเขาได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนในเดือนที่หนึ่งเมื่อน้ำท่วมฝั่งแม่น้ำ และขับไล่สิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายในหุบเขาทั้งหลายไปทางฝั่งตะวันออกและไปทางฝั่งตะวันตก

16 พวกผู้ชายเบนยามินและยูดาห์ส่วนหนึ่งได้มาหาดาวิด ณ ที่มั่นที่แข็งแรง 17 ดาวิดได้ออกไปพบพวกเขา และพูดกับพวกเขาว่า “ถ้าท่านทั้งหลายมาอย่างสันติ มาเพื่อช่วยข้าพเจ้า ก็ขอเชิญมาร่วมกับข้าพเจ้า แต่ถ้าพวกท่านมาเพื่อที่จะขายข้าพเจ้าให้แก่พวกปฏิปักษ์ของข้าพเจ้า ก็ขอพระเจ้าแห่งบรรพบุรุษทั้งหลายของพวกเราทอดพระเนตร และทรงกล่าวโทษพวกท่านทั้งหลายเถิด เพราะว่าข้าพเจ้าไม่ได้กระทำความผิดใดๆ” 18 จากนั้นพระวิญญาณได้มาเหนืออามาสัย หัวหน้าของทั้งสามสิบคนนั้น อามาสัยได้พูดว่า “ดาวิด บุตรชายของเจสซี เราทั้งหลายเป็นของท่าน พวกเราอยู่ข้างท่าน สันติสุข ขอให้สันติสุขอยู่กับคนทั้งหลายที่สนับสนุนท่าน เพราะพระเจ้าของท่านช่วยท่าน" จากนั้นดาวิดได้รับพวกเขาไว้และได้ตั้งให้พวกเขาเป็นพวกผู้บังคับบัญชาผู้ชายทั้งหลายของเขา

19 คนบางส่วนจากมนัสเสห์ด้วยที่ถูกทอดทิ้งให้ดาวิด เมื่อเขาได้มากับคนฟีลิสเตียเพื่อทำสงครามกับซาอูล แต่พวกเขาไม่ได้ช่วยคนฟีลิสเตีย เพราะพวกเจ้านายคนฟีลิสเตียได้หารือกันและส่งดาวิดจากไป พวกเขาได้พูดว่า “เขาจะหลบหนีไปหาซาอูลเจ้านายของเขา เป็นการเสี่ยงชีวิตของพวกเรา” 20 เมื่อเขาไปยังศิกลาก พวกผู้ชายมนัสเสห์ผู้ซึ่งมาร่วมกับเขาคืออัดนาห์ โยซาบาด เยดียาเอล มีคาเอล โยซาบาด เอลีฮูและศิลเลธัย ผู้บังคับบัญชาทหารหนึ่งพันนายของมนัสเสห์ 21 เขาทั้งหลายได้ช่วยเหลือดาวิดต่อสู้พวกปล้น เพราะเขาทั้งหลายเป็นผู้ชายที่ชำนาญศึกทั้งสิ้นและภายหลังได้เป็นผู้บังคับบัญชาในกองทัพ 22 ทุกๆ วันมีพวกผู้ชายได้เข้าหาดาวิดเพื่อจะช่วยเหลือเขา จนกระทั่งกลายเป็นกองทัพใหญ่อย่างกองทัพของพระเจ้า

23 นี่เป็นบันทึกของพวกทหารติดอาวุธสำหรับสงคราม ผู้ได้มาหาดาวิดในเมืองเฮโบรน เพื่อจะเปลี่ยนราชอาณาจักรของซาอูลให้เป็นของเขา ตามที่พระวจนะของพระเจ้าได้กล่าวไว้ 24 จากคนยูดาห์ที่ถือโล่และหอกมี 6,800 คนเป็นผู้ที่ติดอาวุธ สำหรับสงคราม 25 จากคนสิเมโอน มีผู้ชายที่ชำนาญศึก 7,100 คน 26 จากคนเลวีมีผู้ชายที่ชำนาญศึก 4,600 คน

27 เยโฮยาดาเป็นผู้นำพวกเชื้อสายของอาโรน มีคนมากับเขา 3,700 คน 28 กับศาโดก ชายหนุ่มที่แข็งแรง และกระตือรือร้น มีผู้นำยี่สิบสองคนจากครอบครัวของบิดาของเขา 29 จากคนเบนยามิน เผ่าของซาอูลมีสามพันคน เกือบทั้งหมดของพวกเขายังคงจงรักภักดีต่อซาอูลจนกระทั่งถึงเวลานี้ 30 จากคนเอฟราอิมมีผู้ชายที่ชำนาญศึก 20,800 คน เป็นผู้ชายมีชื่อเสียงในครอบครัวทั้งหลายของพวกบิดาของพวกเขา 31 จากคนมนัสเสห์กึ่งเผ่ามีผู้ชายที่มีชื่อเสียง หนึ่งหมื่นแปดพันคน ผู้ซึ่งได้มาเพื่อทำให้ดาวิดเป็นกษัตริย์

32 จากคนอิสสาคาร์ มีผู้นำสองร้อยคนผู้ที่เข้าใจในเรื่องจังหวะเวลาและได้รู้ว่าคนอิสราเอลควรทำอะไร พวกญาติทั้งหมดของพวกเขาอยู่ใต้การบังคับบัญชาของพวกเขา 33 จากคนเศบูลุน มีผู้ชายที่ชำนาญศึกห้าหมื่นคนที่ถูกเตรียมมาพร้อมสำหรับการสู้รบ พร้อมด้วยอาวุธทุกอย่างเพื่อทำสงคราม และมีความจงรักภักดีเดียว 34 จากคนนัฟทาลี มีข้าราชการทั้งหลายหนึ่งพันคน และพร้อมกับพวกเขามีผู้ชายที่ติดโล่และหอกมาด้วยสามหมื่นเจ็ดพันคน

35 จากคนดาน มีผู้ชายที่เตรียมพร้อมทำสงคราม 28,600 คน 36 จากคนอาเชอร์ มีผู้ชายที่เตรียมพร้อมทำสงครามสี่หมื่นคน 37 จากอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน จากคนรูเบน คนกาด และคนมนัสเสห์กึ่งเผ่า มี 120,000 คน ที่ติดอาวุธทุกอย่างเพื่อทำสงคราม

38 ทหารทั้งสิ้นเหล่านี้ พร้อมที่จะทำศึก ได้มายังเมืองเฮโบรน ด้วยเจตนาเต็มเปี่ยมที่จะให้ดาวิดเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลทั้งสิ้น คนอิสราเอลทั้งหมดที่เหลืออยู่ได้ตกลงกันที่จะให้ดาวิดเป็นกษัตริย์ด้วย 39 เขาทั้งหลายได้อยู่ที่นั่นกับดาวิดสามวัน กินและดื่ม เพราะว่าญาติของพวกเขาได้ส่งพวกเขามาด้วยการเตรียมการไว้ 40 ยิ่งกว่านั้น คนเหล่านั้นผู้ที่อยู่ใกล้เขาทั้งหลาย ที่ไกลออกไปถึงอิสสาคาร์ และเศบูลุน และนัฟทาลีได้จัดอาหารบรรทุกพวกลา อูฐ ล่อ และวัวกับขนม มะเดื่อ ช่อองุ่นแห้ง เหล้าองุ่น น้ำมัน วัว และแกะ เพราะว่าคนอิสราเอลได้มีการฉลอง

13

1 ดาวิดได้หารือกับพวกผู้บังคับบัญชาทหารกองพันและกองร้อย และผู้นำทุกคน 2 ดาวิดพูดกับชุมนุมชนอิสราเอลทั้งปวงว่า “ถ้าท่านทั้งหลายเห็นด้วยและถ้านี่มาจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา ก็ให้เราทั้งหลายส่งพวกคนสื่อสารไปทุกหนแห่ง ไปหาพวกพี่น้องของพวกเรา ผู้ที่ยังคงอยู่ในแผ่นดินอิสราเอลทั้งสิ้น ให้ไปยังพวกปุโรหิตและคนเลวีผู้ซึ่งอยู่ในเมืองต่างๆ ของพวกเขา จงบอกเขาทั้งหลายให้มาร่วมกับพวกเรา 3 ให้เราทั้งหลายนำหีบของพระเจ้าของพวกเรากลับมายังพวกเรา เพราะในรัชสมัยของซาอูลเราทั้งหลายมิได้แสวงหาน้ำพระทัยของพระองค์” 4 ที่ชุมนุมชนทั้งสิ้นนั้นจึงได้ตกลงที่จะกระทำสิ่งเหล่านี้ เพราะในสายตาของประชาชนทั้งหลาย พวกเขาเห็นชอบด้วย

5 ดังนั้นดาวิดจึงได้ประชุมคนอิสราเอลทั้งสิ้น จากแม่น้ำชิโหร์ในอียิปต์ ถึงทางเข้าเมืองฮามัท เพื่อจะเชิญหีบพระเจ้าจากคีริยาทเยอาริม 6 ดาวิดและอิสราเอลทั้งปวงได้ขึ้นไปยังบาอาลาห์ คือคีริยาทเยอาริมซึ่งเป็นของยูดาห์ เพื่อจะเชิญหีบของพระเจ้าจากที่นั่น ซึ่งได้ถูกเรียกโดยพระนามของพระยาห์เวห์ผู้ประทับเหนือพวกเครูบ 7 ดังนั้นเขาทั้งหลายได้บรรทุกหีบของพระเจ้าบนเกวียนเล่มใหม่ พวกเขาได้นำออกจากเรือนของอาบีนาดับ อุสซากับอาหิโยได้เป็นคนนำเกวียนนั้น 8 ดาวิดกับอิสราเอลทั้งปวงได้ฉลองต่อพระพักตร์พระเจ้าด้วยเต็มกำลังของเขาทั้งหลาย พวกเขาร้องเพลงด้วยเครื่องสาย รำมะนา ฉาบ และแตร

9 เมื่อเขาทั้งหลายได้เข้ามาถึงลานนวดข้าวของคิโดน อุสซาได้ยื่นมือออกจับหีบไว้เพราะโคสะดุด 10 ดังนั้นพระพิโรธของพระยาห์เวห์ได้พลุ่งขึ้นต่ออุสซา และพระยาห์เวห์ทรงประหารเขา เพราะอุสซาได้ยื่นมือออกจับหีบนั้น เขาจึงสิ้นชีวิตต่อพระพักตร์พระเจ้าที่นั่น 11 ดาวิดโกรธเพราะพระยาห์เวห์ทรงประหารอุสซา ที่นั่นถูกเรียกว่าเปเรศอุสซามาจนถึงทุกวันนี้ 12 ในวันนั้นดาวิดจึงได้เกรงกลัวต่อพระเจ้า เขาพูดว่า “เราจะนำหีบของพระเจ้ากลับบ้านเพื่อเราได้อย่างไร?” 13 ดังนั้นดาวิดจึงมิได้ย้ายหีบไปไว้ในนครของดาวิด แต่นำหีบไปไว้ที่ข้างบ้านโอเบดเอโดมคนกัท 14 หีบของพระเจ้ายังคงอยู่กับครัวเรือนของโอเบดเอโดมในบ้านของเขาสามเดือน ดังนั้นพระยาห์เวห์ทรงอำนวยพระพรแก่ครัวเรือนของโอเบดเอโดมกับทั้งสิ้นซึ่งเขามีอยู่

14

1 จากนั้นฮีรามกษัตริย์เมืองไทระ ได้ทรงส่งเหล่าทูตมาเฝ้าดาวิด พร้อมทั้งไม้สนสีดาร์ พวกช่างไม้และช่างก่อสร้าง พวกเขาได้สร้างวังสำหรับพระองค์ 2 ดาวิดทรงทราบว่าพระยาห์เวห์ได้ทรงตั้งพระองค์เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล และอาณาจักรของพระองค์เป็นที่ยกย่องสูงส่ง เพื่อเห็นแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์

3 ในเยรูซาเล็ม ดาวิดทรงมีพระสนมเพิ่มมากขึ้น และพระองค์ได้ทรงเป็นพระบิดาของพวกโอรสและราชธิดา 4 ต่อไปนี้เป็นรายชื่อบรรดาโอรสซึ่งได้ประสูติให้กับพระองค์ในเยรูซาเล็มคือชัมมุวา โชบับ นาธัน ซาโลมอน 5 อิบฮาร์ เอลีชูวา เอลเปเลท 6 โนกาห์ เนเฟก ยาเฟีย 7 เอลีชามา เบเอลยาดา และเอลีเฟเลท

8 บัดนี้เมื่อคนฟีลิสเตียได้ยินว่าดาวิดทรงรับการเจิมเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลทั้งปวงแล้ว พวกเขาจึงออกไปแสวงหาดาวิด แต่ดาวิดทรงทราบเรื่องนี้และได้เสด็จออกไปต่อสู้พวกเขา 9 ขณะนั้นคนฟีลิสเตียได้เข้ามาและปล้นในหุบเขาเรฟาอิม 10 จากนั้นดาวิดได้ทรงทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า พระองค์ได้ตรัสว่า “ควรที่ข้าพระองค์จะโจมตีพวกฟีลิสเตียหรือ? พระองค์จะทรงมอบชัยชนะเหนือพวกเขาหรือ?” พระยาห์เวห์ได้ตรัสตอบพระองค์ว่า “จงโจมตีเถิด เพราะเราจะมอบพวกเขาให้เจ้า” 11 ดังนั้นพวกเขาได้ขึ้นไปยังบาอัลเปราซิม และที่นั่นดาวิดได้ทรงรบชนะเขาทั้งหลายที่นั่น พระองค์ได้ตรัสว่า “พระเจ้าทรงเป็นเหมือนน้ำท่วม ที่ได้ทรงพลุ่งใส่เหล่าข้าศึกของข้าพระองค์โดยมือของข้าพระองค์” ดังนั้นชื่อของสถานที่นั้นจึงกลายเป็น บาอัลเปราซิม 12 พวกคนฟีลิสเตียได้ละทิ้งบรรดารูปเคารพของพวกเขาเสียที่นั่น และดาวิดได้ทรงมีพระบัญชาให้เผาบรรดารูปเคารพเหล่านั้น

13 จากนั้นคนฟีลิสเตียได้มาปล้นหุบเขานั้นอีกครั้ง 14 ดังนั้นดาวิดจึงทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าอีก พระเจ้าตรัสกับพระองค์ว่า “เจ้าต้องไม่โจมตีพวกเขาซึ่งหน้า แต่จงล้อมพวกเขาจากด้านหลัง และโจมตีพวกเขาผ่านหมู่ต้นยาง 15 เมื่อเจ้าได้ยินเสียงกระบวนทัพในสายลมที่กำลังพัดผ่านบนยอดหมู่ต้นยางแล้ว จากนั้นจงโจมตีด้วยกองกำลัง จงกระทำอย่างนี้เพราะว่าพระเจ้าจะเสด็จออกไปข้างหน้าเจ้าเพื่อทรงโจมตีกองทัพคนฟีลิสเตีย” 16 ดังนั้นดาวิดได้ทรงกระทำตามที่พระเจ้าบัญชาแก่พระองค์ พระองค์จึงทรงชนะทัพคนฟีลิสเตียตั้งแต่เมืองกิเบโอนไปจนถึงเมืองเกเซอร์ 17 จากนั้นกิตติศัพท์ของดาวิดก็ลือไปทั่วทั้งแผ่นดิน และพระยาห์เวห์ทรงทำให้ประชาชาติทั้งปวงเกรงกลัวดาวิด

15

1 ดาวิดทรงสร้างพระราชวังต่างๆ เพื่อพระองค์เองในนครดาวิด พระองค์ทรงเตรียมที่ไว้สำหรับหีบของพระเจ้าและทรงตั้งเต็นท์ไว้ให้ 2 แล้วดาวิดตรัสว่า “คนเลวีเท่านั้นที่จะหามหีบของพระเจ้าได้ เพราะว่าพวกเขาได้ถูกเลือกโดยพระยาห์เวห์ให้หามหีบของพระยาห์เวห์ และปรนนิบัติพระองค์ตลอดไปเป็นนิตย์”

3 แล้วดาวิดทรงประชุมคนอิสราเอลทั้งหมดที่กรุงเยรูซาเล็ม เพื่อจะนำหีบของพระยาห์เวห์มาสู่สถานที่ซึ่งพระองค์ได้ทรงเตรียมไว้ 4 ดาวิดทรงรวบรวมเชื้อสายทั้งหลายของอาโรนและคนเลวี 5 จากเชื้อสายทั้งหลายของโคฮาท มีอุรีเอลเป็นผู้นำพร้อมกับพวกญาติผู้ชายของเขา 120 คน

6 จากเชื้อสายทั้งหลายของเมรารี มีอาสายาห์เป็นผู้นำพร้อมกับพวกญาติผู้ชายของเขา 220 คน 7 จากเชื้อสายทั้งหลายของเกอร์โชม มีโยเอลเป็นผู้นำกับพวกญาติผู้ชายของเขา 130 คน 8 จากเชื้อสายทั้งหลายของเอลีซาฟาน มีเชไมยาห์เป็นผู้นำกับพวกญาติผู้ชายของเขา 200 คน 9 จากเชื้อสายทั้งหลายของเฮโบรน มีเอลีเอลเป็นผู้นำกับพวกญาติผู้ชายของเขาแปดสิบคน 10 จากเชื้อสายทั้งหลายของอุสซีเอล มีอัมมีนาดับเป็นผู้นำกับพวกญาติผู้ชายของเขา 112 คน

11 ดาวิดทรงเรียกปุโรหิตคือ ศาโดกและอาบียาธาร์ และคนเลวีคืออุรีเอล อาสายาห์ โยเอล เชไมอาห์ เอลีเอลและอัมมีนาดับ 12 พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “เจ้าทั้งหลายเป็นผู้นำทั้งหลายของพวกครอบครัวคนเลวี จงชำระตัวของเจ้าทั้งหลายให้บริสุทธิ์ ทั้งตัวพวกเจ้าและพวกพี่น้องของเจ้า ดังนั้นพวกเจ้าจะได้นำหีบของพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลขึ้นมายังสถานที่ซึ่งเราได้จัดเตรียมไว้ 13 ในตอนแรกพวกเจ้าไม่ได้ไปหามหีบนั้น นั่นคือสาเหตุที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราทรงพิโรธพลุ่งใส่พวกเรา เพราะพวกเราไม่ได้แสวงหาพระองค์ หรือเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ 14 ดังนั้นเหล่าปุโรหิตและคนเลวีจึงชำระตัวของพวกเขาให้บริสุทธิ์ เพื่อที่พวกเขาจะสามารถนำหีบของพระยาห์เวห์พระเจ้าของคนอิสราเอลขึ้นมา 15 ดังนั้นคนเลวีจึงหามหีบของพระเจ้าบนบ่าของพวกเขาด้วยคานหามทั้งหลาย ดังที่โมเสสได้สั่งไว้ตามกฎทั้งหลายที่ถูกมอบไว้โดยพระดำรัสของพระยาห์เวห์

16 ดาวิดตรัสแก่บรรดาผู้นำของคนเลวีทั้งหลายเพื่อมอบหมายให้พวกพี่น้องของพวกเขาเป็นพวกนักดนตรีพร้อมกับเครื่องดนตรีทั้งหลาย เครื่องสายทั้งหลายคือ พิณใหญ่และฉาบเพื่อร้องเพลงด้วยเสียงดัง และด้วยความชื่นบาน 17 ดังนั้นคนเลวีจึงแต่งตั้งเฮมานบุตรชายของโยเอล และพวกพี่น้องคนหนึ่งของเขาด้วยคือ อาสาฟบุตรชายของเบเรคิยาห์ พวกเขาได้แต่งตั้งพวกญาติผู้ชายจากเชื้อสายทั้งหลายของเมรารี และเอธาน บุตรชายของคูชายาห์ 18 พร้อมกับพวกเขามีพวกญาติผู้ชายของพวกเขาในอันดับสองคือเศคาริยาห์ ยาอาซีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล อุนนี เอลีอับ เบไนยาห์ มาอาเสยาห์ มัททีธิยาห์ เอลีเฟเลหุ มิกเนยาห์ โอเบดเอโดม และเยอีเอลให้เป็นพวกคนเฝ้าประตู

19 เหล่านักดนตรีคือเฮมาน อาสาฟ และเอธานได้รับแต่งตั้งเป็นคนตีฉาบทองสัมฤทธิ์เสียงดัง 20 เศคาริยาห์ อาซีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล อุนนี เอลีอับ มาอาเสยาห์ และเบไนยาห์ เป็นผู้เล่นเครื่องสายทั้งหลายตามทำนองอาลาโมท 21 มัททีธิยาห์ เอลีเฟเลหุ มิกเนยาห์ โอเบดเอโดม เยอีเอล และอาซาซิยาห์เป็นผู้นำด้วยพิณใหญ่ตามทำนองเชมินิท 22 เคนานิยาห์ผู้นำของคนเลวี เป็นผู้อำนวยการของการร้องเพลง เพราะเขาเป็นครูสอนดนตรี 23 เบเรคิยาห์และเอลคานาห์ เป็นผู้รักษาหีบ 24 เชบานิยาห์ โยชาฟัท เนธันเอล อามาสัย เศคาริยาห์ เบไนยาห์ และเอลีเอเซอร์พวกปุโรหิตเป็นผู้เป่าแตรหน้าหีบของพระเจ้า โอเบดเอโดมและเยฮีห์เป็นผู้รักษาหีบ

25 ดังนั้นดาวิด บรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอล และผู้บัญชากองพันจึงไปนำหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ออกมาจากบ้านของโอเบดเอโดมด้วยความเปรมปรีดิ์ 26 ในขณะที่พระเจ้าทรงช่วยคนเลวีผู้ซึ่งได้หามหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์นั้น เขาทั้งหลายได้ถวายเครื่องบูชาเป็นวัวผู้เจ็ดตัวและแกะผู้เจ็ดตัว 27 ดาวิดทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าป่านเนื้อละเอียดเหมือนคนเลวีทั้งปวงผู้ซึ่งได้หามหีบ บรรดานักร้องและเคนานิยาห์ผู้นำการร้องเพลงพร้อมกับพวกนักร้อง ดาวิดได้ทรงสวมเอโฟดผ้าป่าน 28 ดังนั้นคนอิสราเอลทั้งปวงได้นำหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ขึ้นมาด้วยเสียงโห่ร้องยินดี และด้วยเสียงของเขาสัตว์ทั้งหลาย ด้วยฉาบ และด้วยเครื่องสายทั้งหลาย และพิณใหญ่

29 แต่เมื่อหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ได้มาถึงนครดาวิดแล้ว มีคาลราชธิดาของซาอูลทรงมองดูทางช่องหน้าต่าง พระนางทรงเห็นกษัตริย์ดาวิดกำลังทรงเต้นรำและทรงเฉลิมฉลองร่าเริงอยู่ พระนางจึงได้ทรงดูหมิ่นพระองค์ในใจ

16

1 เขาทั้งหลายได้นำหีบของพระเจ้าเข้ามา และได้วางไว้กลางเต็นท์ซึ่งดาวิดได้ทรงตั้งไว้ และเขาทั้งหลายได้ถวายเครื่องเผาบูชา และเครื่องศานติบูชาเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า 2 เมื่อดาวิดได้ทรงถวายเครื่องเผาบูชา และเครื่องศานติบูชาเสร็จแล้ว พระองค์ได้ทรงอวยพรแก่ประชาชนในพระนามพระยาห์เวห์ 3 พระองค์ได้ทรงแจกขนมปังคนละก้อน และเนื้อหนึ่งชิ้น และขนมลูกเกดหนึ่งอันแก่คนอิสราเอลทุกคนทั้งพวกผู้ชายและพวกผู้หญิง

4 ดาวิดได้ทรงตั้งคนเลวีโดยเฉพาะบางคนเพื่อปรนนิบัติอยู่หน้าหีบของพระยาห์เวห์ และเพื่อฉลอง ขอบพระคุณและสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล 5 คนเลวีเหล่านี้คืออาสาฟเป็นผู้นำ และรองจากเขาคือเศคาริยาห์ ยาซิเอล เชมิราโมท เยฮีเอล มัททีธิยาห์ เอลีอับ เบไนยาห์ โอเบดเอโดม และเยอีเอล พวกเขาจะเล่นเครื่องสายต่าง ๆ และด้วยพิณใหญ่ อาสาฟเป็นคนตีฉาบเสียงดัง 6 เบไนยาห์และยาฮาซีเอล ปุโรหิตจะเป่าพวกเขาสัตว์เป็นประจำต่อหน้าหีบพันธสัญญาของพระเจ้า

7 แล้วในวันนั้นดาวิดได้ทรงกำหนดเป็นครั้งแรกให้อาสาฟ และพวกพี่น้องของเขาให้ร้องเพลงขอบพระคุณถวายแด่พระยาห์เวห์ 8 จงขอบพระคุณแด่พระยาห์เวห์ จงร้องออกพระนามของพระองค์ จงประกาศบรรดาพระราชกิจของพระองค์ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย 9 จงร้องเพลงถวายพระองค์ ร้องเพลงสรรเสริญถวายพระองค์ จงกล่าวถึงพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ทั้งสิ้นของพระองค์ 10 จงโอ้อวดในพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์ จงให้จิตใจของบรรดาผู้แสวงหาพระยาห์เวห์ยินดี 11 จงแสวงหาพระยาห์เวห์ และพระกำลังของพระองค์ จงแสวงหาการสถิตอยู่ด้วยของพระองค์อย่างสม่ำเสมอ

12 จงระลึกถึงสิ่งทั้งหลายที่ยิ่งใหญ่ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำ การอัศจรรย์ทั้งหลายของพระองค์และพระบัญชาทั้งหลายจากพระโอษฐ์ของพระองค์ 13 โอ เชื้อสายทั้งหลายของอิสราเอล ผู้รับใช้ของพระองค์ คนทั้งหลายของยาโคบ บรรดาผู้ที่ถูกเลือกสรรของพระองค์ 14 พระองค์คือพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเรา พระบัญชาทั้งหลายของพระองค์อยู่ทั่วทั้งแผ่นดินโลก

15 จงรักษาพันธสัญญาของพระองค์ไว้ในจิตใจตลอดไปเป็นนิตย์ คือพระวจนะที่พระองค์ได้ทรงบัญชาไว้เพื่อหนึ่งพันชั่วอายุคน 16 พระองค์ทรงระลึกถึงพันธสัญญาที่พระองค์ได้ทรงกระทำกับอับราฮัมและคำปฏิญาณของพระองค์ต่ออิสอัค 17 นี่คือสิ่งที่พระองค์ได้ทรงยืนยันกับยาโคบให้เป็นกฎเกณฑ์ และแก่คนอิสราเอลเป็นพันธสัญญานิรันดร์ 18 พระองค์ได้ตรัสว่า “เราจะให้แผ่นดินคานาอันแก่พวกเจ้าเป็นส่วนมรดกของเจ้าทั้งหลาย”

19 เราได้กล่าวสิ่งนี้มื่อพวกเจ้ายังเป็นแต่คนจำนวนน้อย น้อยมากจริงๆ และเป็นคนแปลกหน้าในแผ่นดินนั้น 20 พวกเขาได้พเนจรไปจากประชาชาติถึงประชาชาติ จากราชอาณาจักรหนึ่งไปยังอีกอาณาจักรหนึ่ง 21 พระองค์มิได้ทรงยอมให้ใครมาบีบบังคับพวกเขา พระองค์ได้ทรงลงโทษบรรดากษัตริย์เพราะเห็นแก่พวกเขา 22 พระองค์ได้ตรัสว่า “อย่าแตะต้องผู้ที่ได้ถูกเจิมไว้ของเรา อย่าทำอันตรายผู้เผยพระวจนะทั้งหลายของเรา”

23 แผ่นดินโลกทั้งสิ้น จงร้องเพลงถวายพระยาห์เวห์ จงประกาศความรอดของพระองค์วันต่อวัน 24 จงประกาศถึงพระสิริของพระองค์ ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ พระราชกิจทั้งหลายที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ 25 เพราะพระยาห์เวห์นั้นยิ่งใหญ่ และทรงสมควรรับการสรรเสริญอย่างใหญ่ยิ่ง และพระองค์ได้ทรงเป็นที่เกรงกลัวเหนือพระทั้งปวง 26 เพราะพระทั้งปวงของประชาชาติทั้งหลายเป็นพวกรูปเคารพ แต่พระยาห์เวห์ได้เป็นผู้ทรงสร้างท้องฟ้า 27 พระสิริและความสง่างามอยู่เฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ พระกำลังและความชื่นบานมีอยู่ในสถานที่ของพระองค์

28 จงพรรณาแก่พระยาห์เวห์ พวกตระกูลของชนชาติทั้งหลายเอ๋ย จงพรรณาถึงพระสิริและพระกำลังของพระยาห์เวห์ 29 จงพรรณาถึงพระเกียรติของพระยาห์เวห์ซึ่งควรแก่พระนามของพระองค์ จงนำเครื่องบูชาและมาเข้าเฝ้าต่อพระพักตร์พระองค์ จงโค้งคำนับต่อพระยาห์เวห์ในความบริสุทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ 30 แผ่นดินโลกทั้งสิ้นเอ๋ย จงตัวสั่นเฉพาะพระพักตร์พระองค์ โลกได้ถูกสถาปนาไว้ด้วย มันจะไม่ถูกสั่นคลอนเลย

31 จงให้ท้องฟ้ายินดีและแผ่นดินโลกเปรมปรีดิ์ จงให้พวกเขาพูดท่ามกลางบรรดาประชาชาติว่า “พระยาห์เวห์ทรงครอบครอง” 32 จงให้ท้องทะเลคำราม และสิ่งทั้งหลายที่อยู่ในนั้นตะโกนด้วยความยินดี จงให้ทุ่งนากับทุกอย่างที่อยู่ในทุ่งนานั้นยินดี 33 แล้วจงให้ต้นไม้ทั้งสิ้นในป่านั้นตะโกนด้วยความยินดีเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์เพราะพระองค์กำลังเสด็จมาพิพากษาแผ่นดินโลก 34 จงขอบพระคุณพระยาห์เวห์เพราะพระองค์ดีประเสริฐ เพราะพันธสัญญาที่สัตย์ซื่อของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

35 จากนั้นจงกล่าวว่า “ข้าแต่พระเจ้าแห่งการช่วยให้รอดของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้รอด ขอทรงรวบรวมข้าพระองค์ทั้งหลายและทรงช่วยกู้ข้าพระองค์ทั้งหลายจากบรรดาประชาชาติ ดังนั้นข้าพระองค์ทั้งหลายสมควรจะขอบพระคุณพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์และพระสิริในการสรรเสริญพระองค์” 36 พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลสมควรได้รับการสรรเสริญตั้งแต่นิรันดร์กาลจนถึงนิรันดร์กาล ประชาชนทั้งสิ้นได้กล่าวว่า “อาเมน” และได้สรรเสริญพระยาห์เวห์

37 ดังนั้นดาวิดจึงได้ทรงมอบหมายให้อาสาฟและพวกพี่น้องของท่านอยู่ที่นั่นต่อหน้าหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ เพื่อปรนนิบัติอยู่ต่อหน้าหีบนั้นเรื่อยไป เป็นงานประจำวันที่ต้องทำ 38 โอเบดเอโดมและเหล่าญาติหกสิบแปดคนได้ถูกรวมอยู่ด้วย โอเบดเอโดมบุตรชายเยดูธูนกับโฮสาห์เป็นคนเฝ้าประตูทั้งหลาย 39 ศาโดกปุโรหิตและพี่น้องปุโรหิตทั้งหลายของเขาให้ปรนนิบัติรับใช้อยู่หน้าพลับพลาแห่งพระยาห์เวห์ที่ปูชนียสถานสูงในเมืองกิเบโอน

40 พวกเขาได้ถวายเครื่องเผาบูชาแด่พระยาห์เวห์บนแท่นสำหรับเผาเครื่องบูชาอย่างต่อเนื่องในเวลาเช้าและเวลาเย็น ตามซึ่งได้บันทึกไว้ทั้งสิ้นในธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงบัญชาแก่อิสราเอล 41 เฮมานและเยดูธูนได้อยู่กับเขาทั้งหลาย รวมกับผู้ที่เหลืออยู่ผู้ซึ่งถูกเลือกสรรโดยชื่อ ให้ขอบพระคุณแด่พระยาห์เวห์เพราะพันธสัญญาที่สัตย์ซื่อของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์ 42 เฮมานและเยดูธูนรับผิดชอบกับคนเหล่านั้นที่เล่นแตร ฉาบและอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อดนตรีศักดิ์สิทธิ์นั้น บุตรชายทั้งหลายของเยดูธูนได้เฝ้าประตู 43 จากนั้นประชาชนทั้งปวงต่างก็ได้กลับไปยังบ้านของพวกเขา และดาวิดได้เสด็จกลับไปเพื่อทรงอวยพรแด่เชื้อพระวงศ์ของพระองค์

17

1 มันได้เกิดขึ้นหลังจากที่กษัตริย์ได้ประทับในพระราชวังของพระองค์ พระองค์ได้ตรัสกับนาธันผู้เผยพระวจนะว่า "ดูเถิด เราอาศัยในพระราชวังไม้สนสีดาร์ แต่หีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์อยู่ในเต็นท์" 2 แล้วนาธันได้ทูลดาวิดว่า "ขอทรงเสด็จไป และทำในสิ่งที่อยู่ในพระทัยของพระองค์ เพราะพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับพระองค์"

3 แต่ในคืนเดียวกันนั้น พระวจนะของพระเจ้าได้มาถึงนาธันว่า 4 "จงไปและบอกดาวิดผู้รับใช้ของเรา 'นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ตรัส เจ้าจะไม่สร้างพระนิเวศให้เราอยู่อาศัย 5 เพราะเราไม่อาศัยในพระนิเวศตั้งแต่เวลาที่เราได้นำคนอิสราเอลขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ แทนที่เราจะอาศัยอยู่ในเต็นท์ พลับพลาในที่สถานที่ต่างๆ 6 ในทุกสถานที่เราได้เคลื่อนไหวท่ามกลางคนอิสราเอลทั้งหมด เราได้พูดอะไรกับพวกผู้นำอิสราเอลคนใดผู้ที่เราได้แต่งตั้งให้เลี้ยงดูประชาชนของเรา ว่า "ทำไมพวกเจ้าไม่สร้างพระนิเวศไม้สนสีดาร์ให้เรา?"'"

7 "บัดนี้ จงบอกดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า 'นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์จอมโยธาตรัสว่า เราได้นำเจ้าจากทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ จากการติดตามฝูงแกะ ดังนั้นเจ้าจึงได้เป็นผู้ปกครองเหนืออิสราเอลประชาชนของเรา 8 เราได้อยู่กับเจ้าไม่ว่าเจ้าจะไปที่ไหนและได้ทำลายบรรดาศัตรูของเจ้าจากหน้าของเจ้า และเราจะทำให้เจ้ามีชื่อ เหมือนชื่อของผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งผู้ซึ่งอยู่บนโลกนี้ 9 เราจะกำหนดสถานที่สำหรับอิสราเอลประชาชนของเรา และจะปลูกพวกเขาที่นั่น ดังนั้นพวกเขาจะอาศัยในสถานที่ของพวกเขาเอง และจะไม่มีปัญหาอีกต่อไป คนชั่วร้ายทั้งหลายจะไม่ข่มเหงพวกเขาเหมือนที่พวกเขาได้ทำมาก่อนอีกต่อไป 10 เหมือนที่พวกเขาได้กำลังกระทำจากวันทั้งหลายที่เราได้บัญชาให้มีการพิพากษาเหนืออิสราเอลประชาชนของเรา แล้วเราจะปราบบรรดาศัตรูทั้งหมดของเจ้า ยิ่งกว่านั้นเราบอกเจ้าว่าเรา พระยาห์เวห์จะสร้างบ้านให้เจ้า

11 แล้วมันจะมาถึงเมื่อวันทั้งหลายของเจ้าครบถ้วนแล้วเจ้าไปอยู่กับบรรพบุรุษทั้งหลายของเจ้า เราจะยกเชื้อสายคนหนึ่งของเจ้าขึ้นหลังจากเจ้า และสำหรับคนหนึ่งของเชื้อสายทั้งหลายของเจ้า เราจะสถาปนาอาณาจักรของเขา 12 เขาจะสร้างพระนิเวศของเรา และเราจะสถาปนาพระราชบัลลังก์ของเขาตลอดไปเป็นนิตย์ 13 เราจะเป็นบิดาของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา เราจะไม่นำพันธสัญญาสัตย์ซื่อของเราไปจากเขา เหมือนดังที่เราได้นำไปจากซาอูล ผู้ซึ่งปกครองอยู่ก่อนเจ้า 14 เราจะตั้งเขาเหนือพระนิเวศของเราและในราชอาณาจักรของเราเป็นนิตย์ และราชบัลลังก์ของเขาจะถูกสถาปนาเป็นนิตย์'" 15 นาธันได้ทูลต่อดาวิดและได้ถวายรายงานพระองค์ถึงพระวจนะทั้งหมดเหล่านี้ และเขาได้ทูลพระองค์ถึงนิมิตทั้งหมด

16 แล้วกษัตริย์ดาวิดได้เข้าไปข้างในและประทับต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ พระองค์ทูลว่า "ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้า ข้าพระองค์คือใคร และครอบครัวของข้าพระองค์เป็นใคร ที่พระองค์ได้ทรงนำข้าพระองค์มาถึงจุดนี้? 17 เพราะว่านี่เป็นสิ่งเล็กน้อยในสายพระเนตรของพระองค์ โอ พระเจ้า พระองค์ได้ตรัสถึงครอบครัวของผู้รับใช้พระองค์สำหรับความยิ่งใหญ่ในเวลาที่จะเข้ามาและสำแดงถึงคนรุ่นอายุถัดมาทั้งหลายแก่ข้าพระองค์ โอ พระเจ้าพระยาห์เวห์ 18 ข้าพระองค์คือดาวิดจะพูดอะไรถึงพระองค์มากไปกว่านี้ได้เล่า? พระองค์ได้ทรงให้เกียรติผู้รับใช้ของพระองค์ พระองค์ประทานการยอมรับอย่างพิเศษแก่ผู้รับใช้ของพระองค์

19 ข้าแต่พระยาห์เวห์ เพราะเห็นแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ และเพื่อให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ พระองค์ได้ทรงกระทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อเปิดเผยพระราชกิจที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิ้นของพระองค์ 20 ข้าแต่พระยาห์เวห์ไม่มีเหมือนพระองค์ และไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ เท่าที่เราเคยได้ยิน 21 จะมีใครบนแผ่นดินโลกนี้เป็นเหมือนชนชาติอิสราเอลของพระองค์เล่า ผู้ซึ่งพระองค์ พระเจ้าได้ช่วยชีวิตออกจากอียิปต์เหมือนประชาชนสำหรับพระองค์เอง เพื่อทำให้พระนามเป็นที่ประจักษ์สำหรับพระองค์เองโดยพระราชกิจอันยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม? พระองค์ได้ขับไล่บรรดาประชาชาติไปจากหน้าประชาชนของพระองค์ ผู้ซึ่งพระองค์ได้ช่วยชีวิตจากอียิปต์ 22 พระองค์ได้ทำให้อิสราเอลเป็นประชาชนของพระองค์เองตลอดไปเป็นนิตย์ และพระองค์ พระยาห์เวห์ได้เป็นพระเจ้าของพวกเขา

23 ดังนั้น ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอให้คำสัญญาที่พระองค์ได้ทรงให้เกี่ยวกับผู้รับใช้ของพระองค์ และครอบครัวของเขาตั้งมั่นคงอยู่เป็นนิตย์ ขอพระองค์ทรงกระทำดังที่พระองค์ได้ตรัส 24 ขอให้พระนามของพระองค์ตั้งมั่นคงอยู่เป็นนิตย์และยิ่งใหญ่ ดังที่ประชาชนจะกล่าวว่า 'พระยาห์เวห์จอมโยธาคือพระเจ้าของอิสราเอล' ขณะที่บ้านของข้าพระองค์คือดาวิด ผู้รับใช้ของพระองค์ได้ตั้งอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ 25 เพราะพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ได้เปิดเผยแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ที่พระองค์จะสร้างบ้านให้เขา นั่นคือทำไมข้าพระองค์ ผู้รับใช้ของพระองค์จึงได้มีกำลังใจที่จะอธิษฐานต่อพระองค์

26 บัดนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า และได้ให้สัญญาที่ดีแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ 27 บัดนี้ขอพระองค์ได้โปรดทรงอวยพระพรแก่พงศ์พันธุ์ของผู้รับใช้ของพระองค์ตลอดไปเป็นนิตย์ต่อพระพักตร์พระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ได้ทรงอวยพระพรสิ่งใด และสิ่งนั้นจะได้รับพระพรตลอดไปเป็นนิตย์

18

1 ต่อมาเมื่อดาวิดได้ทรงโจมตีคนฟีลิสเตียและทรงชนะพวกเขา พระองค์ทรงยึดเมืองกัทและหมู่บ้านต่างๆ ของเมืองนั้นจากการควบคุมของคนฟีลิสเตีย 2 จากนั้นพระองค์ได้ทรงชนะโมอับและคนโมอับก็ได้กลายเป็นพวกคนรับใช้ของดาวิดและนำบรรณาการมาถวายพระองค์

3 จากนั้นดาวิดได้ทรงชนะฮาดัดเอเซอร์กษัตริย์เมืองโศบาห์ที่เมืองฮามัท ขณะที่ฮาดัดเอเซอร์ได้กำลังเสด็จไปตั้งอาณาเขตของพระองค์ที่แม่น้ำยูเฟรติส 4 ดาวิดได้ทรงยึดรถม้าศึกจากเขาหนึ่งพันคัน พลม้าเจ็ดพันคน และทหารราบสองหมื่นคน ดาวิดได้ทรงตัดเอ็นโคนขาม้ารถม้าศึกเสียสิ้น แต่ได้ทรงเหลือไว้ให้พอแก่รถม้าศึกหนึ่งร้อยคัน 5 และเมื่อคนซีเรียเมืองดามัสกัสได้มาช่วยฮาดัดเอเซอร์ กษัตริย์เมืองโศบาห์ ดาวิดได้ทรงฆ่าคนซีเรียเสียสองหมื่นสองพันคน 6 แล้วดาวิดได้ทรงตั้งกองทหารรักษาการในซีเรียแห่งเมืองดามัสกัส และคนซีเรียได้กลายเป็นคนรับใช้ของพระองค์ และได้นำบรรณาการมาถวายพระองค์ พระยาห์เวห์ได้ประทานชัยชนะแก่ดาวิดทุกแห่งที่พระองค์ได้เสด็จไป 7 ดาวิดได้ทรงนำโล่ทองคำจากผู้รับใช้ของฮาดัดเอเซอร์ และนำไปยังเยรูซาเล็ม 8 ดาวิดได้ทรงนำทองสัมฤทธิ์เป็นอันมากจากทิบหาทและคูนซึ่งเป็นเมืองของฮาดัดเอเซอร์ ที่ภายหลังซาโลมอนได้ทรงใช้ทองสัมฤทธิ์นี้สร้างอ่างที่เรียกว่า "ทะเล" ทองสัมฤทธิ์ พวกเสาหาน และเครื่องใช้ทองสัมฤทธิ์

9 เมื่อโทอูกษัตริย์เมืองฮามัทได้ทรงได้ยินว่า ดาวิดได้ทรงชนะกองทัพทั้งสิ้นของฮาดัดเอเซอร์กษัตริย์เมืองโศบาห์แล้ว 10 และดังนั้นโทอูได้ทรงใช้ฮาโดรัมโอรสของพระองค์ไปเฝ้ากษัตริย์ดาวิดเพื่อคำนับพระองค์ และถวายพระพรพระองค์ ที่พระองค์ทรงได้ทรงกระทำอย่างนี้เพราะดาวิดได้ทรงรบกับฮาดัดเอเซอร์และได้ทรงชนะพระองค์ และเพราะว่าฮาดัดเอเซอร์ได้ทำสงครามต่อสู้โทอู ฮาโดรัมได้นำสิ่งของทั้งหลายที่ทำด้วยเงิน ทองคำ และทองสัมฤทธิ์มากับพระองค์ด้วย 11 กษัตริย์ดาวิดได้ทรงแยกถวายสิ่งเหล่านี้แด่พระยาห์เวห์พร้อมกับเงิน และทองคำซึ่งพระองค์ทรงนำมาจากประชาชาติทั้งปวงคือเอโดม โมอับ ประชาชนอัมโมน คนฟีลิสเตีย และอามาเลข

12 อาบีชัยบุตรชายนางเศรุยาห์ได้ฆ่าคนเอโดมหนึ่งหมื่นแปดพันคนในหุบเขาเกลือ 13 เขาได้ตั้งกองทหารประจำป้อมในเอโดม และคนเอโดมทั้งสิ้นจึงได้กลายเป็นคนรับใช้ของดาวิด พระยาห์เวห์ได้ประทานชัยชนะแก่ดาวิดทุกแห่งที่พระองค์ได้เสด็จไป

14 ดาวิดได้ทรงครองราชย์เหนืออิสราเอลทั้งสิ้น และพระองค์ได้ทรงบริหารอย่างยุติธรรมและชอบธรรมแก่ประชาชนทั้งสิ้นของพระองค์ 15 โยอาบบุตรชายของนางเศรุยาห์เป็นผู้บัญชาการกองทัพ และเยโฮชาฟัทบุตรชายของอาหิลูดเป็นผู้จดบันทึก 16 ศาโดกบุตรชายอาหิทูบและอาหิเมเลคบุตรชายของอาบียาธาร์เป็นพวกปุโรหิต และชาวะชาเป็นอาลักษณ์ 17 เบไนยาห์บุตรชายของเยโฮยาดาอยู่เหนือคนเคเรธีและคนเปเลธ และบรรดาโอรสของดาวิดก็เป็นผู้นำที่ปรึกษาทั้งหลายของกษัตริย์

19

1 แล้วสิ่งนี้ได้เกิดขึ้นต่อมา นาหาชกษัตริย์ของคนอัมโมนได้สิ้นพระชนม์ และโอรสของพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แทน 2 ดาวิดได้ตรัสว่า “เราจะแสดงความเมตตาต่อฮานูนโอรสของนาหาช เพราะว่าบิดาของพระองค์ได้แสดงความเมตตาต่อเรา” ดังนั้นดาวิดจึงได้ทรงส่งคณะทูตไปปลอบโยนพระองค์เกี่ยวกับพระบิดาของพระองค์ พวกข้าราชการของดาวิดได้เข้าไปในแผ่นดินของคนอัมโมนและได้ไปเข้าเฝ้าฮานูน เพื่อจะปลอบโยนพระองค์ 3 แต่บรรดาเจ้านายของคนอัมโมนได้ทูลฮานูนว่า “ฝ่าพระบาททรงคิดหรือว่า ดาวิดทรงให้เกียรติพระราชบิดาของฝ่าพระบาทเพราะพระองค์ได้ส่งพวกผู้ชายมาปลอบโยนฝ่าพระบาทเช่นนั้นหรือ? เหล่าข้าราชการของพระองค์มาหาฝ่าพระบาทเพื่อสำรวจและตรวจสอบแผ่นดินเพื่อจะล้มล้างมันไม่ใช่หรือ?” 4 ดังนั้นฮานูนจึงได้จับเหล่าข้าราชการของดาวิดและได้ทรงโกนเคราของพวกเขาเสีย และได้ทรงตัดเครื่องแต่งกายเสียที่ตรงกลางจนถึงสะโพก และได้ทรงปล่อยพวกเขากลับไป 5 เมื่อพวกเขาได้กราบทูลเรื่องนี้ต่อดาวิดพระองค์ได้ทรงใช้คนไปหาพวกเขา เพราะผู้ชายเหล่านั้นอายมาก กษัตริย์ได้ตรัสว่า “จงพักอยู่ที่เมืองเยรีโคจนกว่าเคราของท่านทั้งหลายจะขึ้น แล้วค่อยกลับมา”

6 เมื่อคนอัมโมนได้เห็นว่า พวกเขาได้กลายเป็นที่เกลียดชังแก่ดาวิด ฮานูนและคนอัมโมนจึงได้ส่งเงินหนึ่งพันตะลันต์ไปจ้างรถม้าศึก และทหารม้าคนอารัมจากเมืองนาฮาราอิม เมืองมาอาคาห์ และเมืองโศบาห์ 7 พวกเขาได้จ้างรถม้าศึกสามหมื่นสองพันคันพร้อมด้วยกษัตริย์เมืองมาอาคาห์กับประชาชนของพระองค์ ผู้ซึ่งได้มาและได้ตั้งค่ายอยู่ที่หน้าเมืองเมเดบา คนอัมโมนก็ได้รวบรวมพวกตนเองจากเมืองต่างๆ ของเขาทั้งหลาย และได้ออกมาเพื่อทำสงคราม 8 เมื่อดาวิดได้ทรงทราบเรื่อง พระองค์ได้ทรงส่งโยอาบ และกองทัพของพระองค์ทั้งสิ้นไปพบพวกเขา 9 คนอัมโมนได้ออกมาจัดทัพเพื่อทำสงครามที่ประตูเมือง ขณะที่บรรดากษัตริย์ผู้ซึ่งได้มาก็อยู่ตามลำพังในท้องทุ่ง

10 เมื่อโยอาบได้เห็นว่าแนวรบนั้นประชิดหน้าท่านอยู่ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ท่านได้คัดเอาคนอิสราเอลที่มีฝีมือในการต่อสู้ที่ดีที่สุดและจัดเตรียมพวกเขาไปต่อสู้คนอารัม 11 ส่วนกองทัพที่เหลือ ท่านได้มอบไว้ในการบัญชาการของอาบีชัยน้องชายของท่าน และท่านได้นำพวกเขาเข้าสู่แนวรบต่อสู้กองทัพคนอัมโมน 12 และโยอับได้พูดว่า “ถ้ากำลังคนซีเรียแข็งแรงเหลือกำลังของเรา แล้วอาบีชัย เจ้าต้องมาช่วยเรา แต่ถ้ากองทัพคนอัมโมนแข็งแรงเกินกำลังของเจ้า แล้วเราจะมาและช่วยเจ้า 13 จงเข้มแข็ง และให้เราแสดงว่าพวกเราเองเข้มแข็งเพื่อประชาชนของเรา และเพื่อเมืองทั้งหลายของพระเจ้าของเรา เพราะพระยาห์เวห์จะทรงกระทำสิ่งที่ดีสำหรับพระประสงค์ของพระองค์” 14 ดังนั้นโยอาบและพวกทหารของกองทัพของท่านได้บุกเข้าไปทำสงครามกับคนซีเรียผู้ซึ่งถูกผลักดันให้แตกหนีไปต่อหน้ากองทัพอิสราเอล 15 เมื่อกองทัพอัมโมนได้เห็นว่าคนซีเรียได้หนีไปแล้ว พวกเขาก็ได้หนีไปจากอาบีชัยน้องชายของโยอาบด้วย และได้กลับเข้าไปในเมือง แล้วโยอาบได้กลับไปจากประชาชนอัมโมนและได้กลับไปยังเยรูซาเล็ม

16 เมื่อคนซีเรียได้เห็นว่าพวกเขาได้ถูกทำให้พ่ายแพ้โดยอิสราเอล พวกเขาได้ขอกำลังเสริมจากอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำยูเฟรติสมา พร้อมกับโชฟัคผู้บังคับบัญชากองทัพของฮาดัดเอเซอร์ 17 เมื่อดาวิดได้ทรงทราบเรื่องนี้ พระองค์ได้ทรงรวมอิสราเอลทั้งสิ้นเข้าด้วยกัน ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดน และได้มาหาพวกเขา พระองค์ได้จัดกองทัพเพื่อทำสงครามต่อสู้คนอารัม และพวกเขาได้ต่อสู้กับพระองค์ 18 คนอารัมได้แตกหนีไปจากอิสราเอล และดาวิดได้ทรงฆ่าทหารรถม้าศึกคนอารัมเจ็ดพันคน และทหารราบสี่หมื่นคน พระองค์ได้ทรงฆ่าโชฟัคผู้บัญชาการกองทัพนั้นด้วย 19 เมื่อเหล่ากษัตริย์ผู้ซึ่งเป็นคนรับใช้ของฮาดัดเอเซอร์ได้เห็นว่าพวกเขาได้ถูกทำให้พ่ายแพ้โดยอิสราเอล พวกเขาได้ยอมสงบศึกกับดาวิด และรับใช้พวกเขา ดังนั้นคนอารัมจึงไม่ยินยอมที่จะช่วยคนอัมโมนอีกต่อไป

20

1 ครั้นถึงฤดูใบไม้ผลิ ในเวลาปกติเมื่อบรรดากษัตริย์ยกกองทัพออกไปเพื่อทำสงคราม โยอาบก็ได้นำกองทัพไปในการรบและได้ทำลายแผ่นดินของคนอัมโมน เขาได้ไปและล้อมเมืองรับบาห์ไว้ ดาวิดได้ยังคงประทับอยู่ในเยรูซาเล็ม โยอาบได้โจมตีเมืองรับบาห์ และได้ชัยชนะ 2 ดาวิดได้ทรงถอดมงกุฎจากพระเศียรของกษัตริย์ของเขาทั้งหลาย และพระองค์ได้ทรงพบว่า มงกุฎนั้นมีทองคำหนักหนึ่งตะลัันต์ และมีเพชรพลอยประดับ มงกุฏนั้นได้ถูกสวมบนพระเศียรของดาวิด และพระองค์ได้ทรงนำออกจากของที่ริบจากเมืองนั้นมากมาย 3 พระองค์ได้ทรงนำประชาชนที่อยู่ในเมืองนั้นออกมา บังคับพวกเขาให้ทำงานอยู่กับเลื่อย และพวกเหล็กขุดและพวกขวาน ดาวิดได้ทรงบังคับเมืองทั้งหลายของคนอัมโมนให้ทำงานกรรมกรนี้ แล้วดาวิดกับกองทัพทั้งปวงก็ได้กลับสู่เยรูซาเล็ม

4 อยู่มาภายหลังเหตุการณ์นี้ ได้เกิดสงครามขึ้นกับคนฟีลิสเตียที่เมืองเกเซอร์ สิบเบคัยคนหุชาห์ได้ฆ่าสิปปัยคนหนึ่งในเชื้อสายทั้งหลายของคนเรฟาอิมเสีย และคนฟีลิสเตียก็ได้ถูกปราบ 5 แล้วมีสงครามกับคนฟีลิสเตียอีกที่เมืองโกบ ที่เอลฮานันบุตรชายของยาอีร์คนเบธเลเฮมได้ฆ่าลามี น้องชายของโกลิอัทชาวกัทผู้มีหอกด้ามโตเท่าไม้กระพั่นทอผ้า 6 และมีสงครามที่เมืองกัทอีก มีชายคนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ ผู้ซึ่งมีนิ้วมือข้างละหกนิ้ว และนิ้วเท้าข้างละหกนิ้ว เขาได้สืบเชื้อสายมาจากคนเรฟาอิมด้วย 7 เมื่อเขาได้ท้าทายกองทัพอิสราเอล เยโฮนาดับบุตรชายของชิเมอี พระเชษฐาของดาวิดได้ฆ่าเขาเสีย 8 คนเหล่านี้เป็นบรรดาเชื้อสายทั้งหลายของคนเรฟาอิมเมืองกัท และพวกเขาได้ถูกฆ่าด้วยพระหัตถ์ของดาวิดและด้วยมือพวกทหารของพระองค์

21

1 ซาตานได้ลุกขึ้นต่อสู้อิสราเอล และเร้าใจให้ดาวิดนับจำนวนอิสราเอล 2 ดาวิดตรัสกับโยอาบและบรรดาผู้บัญชาการของกองทัพว่า “จงไปและนับคนอิสราเอลตั้งแต่เมืองเบเออร์เชบาถึงเมืองดาน แล้วนำรายงานมาให้เรา เพื่อที่เราจะได้ทราบจำนวนของเขาทั้งหลาย” 3 โยอาบทูลว่า “ขอพระยาห์เวห์ทรงเพิ่มกองทัพของพระองค์อีกร้อยเท่าของที่มีอยู่ ข้าแต่กษัตริย์เจ้านายของข้าพระองค์ พวกเขาทั้งหมดไม่ได้รับใช้เจ้านายของข้าพระองค์หรือ? ทำไมเจ้านายของข้าพระองค์ทรงต้องการเช่นนี้? ทำไมพระองค์จึงทรงนำความผิดมาสู่อิสราเอล?” 4 แต่พระบัญชาของกษัตริย์เป็นที่สิ้นสุดโยอาบขัดรับสั่งไม่ได้ ดังนั้นโยอาบจึงออกไปทั่วอิสราเอลทั้งสิ้น และเขากลับมายังเยรูซาเล็ม 5 แล้วโยอาบได้ถวายรายงานจำนวนพวกผู้ชายที่เป็นนักรบเพื่อดาวิด ในอิสราเอลมีทั้งสิ้น 1,100,000 คนที่เป็นนักรบ เฉพาะยูดาห์มี 470,000 คนที่เป็นทหาร 6 แต่ไม่ได้นับรวมคนเลวีและคนเบนยามิน เนื่องจากพระบัญชาของกษัตริย์นั้นทำให้โยอาบไม่พอใจ

7 โดยการกระทำนี้พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัย ดังนั้นพระองค์จึงทรงโจมตีอิสราเอล 8 ดาวิดทูลพระเจ้าว่า “ข้าพระองค์ได้ทำบาปใหญ่ยิ่งโดยการกระทำนี้ บัดนี้ขอทรงนำเอาความผิดของผู้รับใช้ของพระองค์ไป เพราะข้าพระองค์ทำการอย่างโง่เขลามาก” 9 พระยาห์เวห์ได้ตรัสกับกาดผู้เผยพระวจนะของดาวิดว่า

10 “จงไปบอกดาวิดว่า 'นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ตรัสคือว่า เราเสนอเจ้าสามประการ จงเลือกเอาประการหนึ่ง’” 11 ดังนั้นกาดจึงได้เข้าเฝ้าดาวิดและกราบทูลพระองค์ว่า “พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า 'จงเลือกหนึ่งในสิ่งเหล่านี้ 12 ว่าจะเป็นกันดารอาหารสามปี หรือการกวาดล้างสามเดือนโดยศัตรูของเจ้า และดาบของศัตรูจะไล่ทันเจ้า หรือโดนดาบของพระยาห์เวห์สามวันนั่นคือโรคระบาดบนแผ่นดิน และด้วยทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ทำลายตลอดทั่วทั้งแผ่นดินทั้งสิ้นของอิสราเอล' บัดนี้ขอทรงตัดสินพระทัยว่าจะให้ข้าพระบาทกลับไปทูลพระองค์ผู้ได้ทรงส่งข้าพระบาทมาว่าประการใด” 13 แล้วดาวิดตรัสกับกาดว่า “เรามีความทุกข์ใจมาก ขอให้เราตกเข้าไปอยู่ในพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์ดีกว่าที่จะตกอยู่ในมือของมนุษย์ เพราะพระกรุณาของพระองค์นั้นใหญ่ยิ่งนัก”

14 ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงทรงส่งโรคระบาดไปบนอิสราเอล และคนอิสราเอลได้ล้มตายไปเจ็ดหมื่นคน 15 พระเจ้าทรงใช้ทูตสวรรค์ไปยังเยรูซาเล็มเพื่อจะทำลายเสีย แต่เมื่อท่านจะลงมือทำลายนั้น พระยาห์เวห์ทรงเฝ้าดูและพระองค์ทรงกลับพระทัยในการที่จะทำให้เกิดความเสียหายนั้น พระองค์ตรัสกับทูตสวรรค์ผู้ที่กำลังจะทำลายนั้นว่า “พอแล้ว จงยับยั้งมือของเจ้า” ในเวลานั้นทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์กำลังยืนอยู่ที่ลานนวดข้าวของโอรนันคนเยบุส 16 และดาวิดจึงแหงนพระพักตร์ขึ้น และทรงเห็นทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ กำลังยืนอยู่ระหว่างแผ่นดินโลกและท้องฟ้า และกำลังชักดาบในมือของเขายกขึ้นเหนือเยรูซาเล็ม แล้วดาวิดและพวกผู้ใหญ่ได้สวมผ้ากระสอบซบหน้าลงบนพื้น 17 ดาวิดทูลกับพระเจ้าว่า “ข้าพระองค์เองไม่ใช่หรือที่บัญชาให้นับกองทัพ? ข้าพระองค์ได้ทำสิ่งที่ชั่วร้ายนี้ แต่บรรดาแกะเหล่านี้พวกเขาได้ทำอะไร? ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอให้พระหัตถ์ของพระองค์โจมตีข้าพระองค์ และครอบครัวของข้าพระองค์ แต่ขออย่าให้โรคร้ายนั้นคงอยู่บนประชากรของพระองค์”

18 ดังนั้นทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์จึงบัญชาให้กาดทูลดาวิดว่า ดาวิดควรเสด็จขึ้นไปสร้างแท่นบูชาถวายแด่พระยาห์เวห์ที่ลานนวดข้าวของโอรนันคนเยบุส 19 ดังนั้นดาวิดจึงเสด็จขึ้นไปตามคำของกาดที่ได้สั่งให้พระองค์เพื่อที่จะทรงกระทำในพระนามของพระยาห์เวห์ 20 ในขณะที่โอรนัมกำลังนวดข้าวสาลี เขาหันมาเห็นทูตสวรรค์ เขาและบุตรชายสี่คนของเขาที่อยู่กับเขาได้ซ่อนตัวพวกเขาเอง 21 เมื่อดาวิดเสด็จเข้ามายังโอรนัน โอรนันได้มองเห็นดาวิด เขาจึงละลานนวดข้าวและถวายบังคมต่อดาวิดด้วยการซบหน้าลงถึงดิน

22 แล้วดาวิดตรัสกับโอรนันว่า “จงขายที่ลานนวดข้าวแก่เรา เพื่อเราจะสามารถสร้างแท่นบูชาสำหรับพระยาห์เวห์ เราจะจ่ายเต็มตามราคา เพื่อว่าภัยพิบัตินั้นจะได้หมดไปจากประชาชน” 23 โอรนันทูลดาวิดว่า “ขอทรงรับที่ดินนี้เป็นของพระองค์เถิด กษัตริย์เจ้านายของข้าพระองค์ ขอทรงทำสิ่งที่ดีในสายพระเนตรพระองค์เถิด ดูเถิดข้าพระองค์จะถวายโคให้พระองค์เพื่อสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา และถวายเลื่อนนวดข้าวให้เป็นฟืน และข้าวสาลีเป็นธัญบูชา ข้าพระองค์จะขอถวายทั้งหมดแด่พระองค์” 24 กษัตริย์ดาวิดตรัสกับโอรนันว่า “ไม่ได้ เรายืนยันที่จะซื้อที่ดินนี้เต็มตามราคา เราจะไม่เอาของของเจ้าและถวายเป็นเครื่องเผาบูชาแด่พระยาห์เวห์หากสิ่งนั้นเราได้มาเปล่าๆ" 25 ดังนั้นดาวิดจึงทรงจ่ายให้โอรนันเป็นทองคำหกร้อยเชเขลเพื่อสถานที่นั้น 26 ดาวิดได้ทรงสร้างแท่นบูชาสำหรับพระยาห์เวห์ที่นั่น และทรงถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องศานติบูชาบนนั้น พระองค์ร้องทูลต่อพระยาห์เวห์ ผู้ทรงตอบพระองค์ด้วยไฟจากท้องฟ้าบนแท่นบูชาเพื่อการถวายเครื่องเผาบูชา 27 แล้วพระยาห์เวห์ทรงบัญชาแก่ทูตสวรรค์ และทูตสวรรค์นั้นได้เอาดาบของเขากลับใส่ฝักของมันเสีย

28 เมื่อดาวิดทรงเห็นว่าพระยาห์เวห์ได้ทรงตอบพระองค์ที่ลานนวดข้าวของโอรนันคนเยบุส พระองค์ทรงถวายสัตวบูชาที่นั่นในเวลาเดียวกัน 29 บัดนี้ในเวลานั้น พลับพลาของพระยาห์เวห์ซึ่งโมเสสได้สร้างขึ้นในถิ่นทุรกันดาร และแท่นเผาบูชาเครื่องเผาบูชา อยู่ที่สถานที่สูงที่กิเบโอน 30 อย่างไรก็ตาม ดาวิดไม่ทรงสามารถเสด็จไปที่นั่นเพื่อทูลถามการทรงนำของพระเจ้าได้ เพราะพระองค์ทรงกลัวดาบของทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์

22

1 แล้วดาวิดได้ตรัสว่า “นี่คือสถานที่สำหรับพระนิเวศของพระยาห์เวห์พระเจ้าที่จะอยู่ พร้อมกับแท่นเผาเครื่องบูชาของอิสราเอล” 2 ดังนั้นดาวิดได้ทรงบัญชาแก่คนรับใช้ทั้งหลายของพระองค์ให้รวบรวมพวกคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินอิสราเอล พระองค์ได้ทรงมอบหมายให้พวกเขาเป็นคนสกัดหินเพื่อสกัดหินเป็นก้อนๆ เพื่อสร้างพระนิเวศของพระเจ้า 3 ดาวิดยังได้ทรงเตรียมเหล็กเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นตะปูสำหรับประตูทั้งหลายที่จะเข้าไปสู่ประตูทางเข้าและเป็นเหล็กหนีบ พระองค์ได้ประทานทองสัมฤทธิ์เป็นจำนวนมากเหลือที่จะชั่งได้ 4 และไม้สนสีดาร์นับไม่ถ้วน (ชาวไซดอน และชาวไทระ ได้นำไม้สนสีดาร์จำนวนมากมายมาถวายให้ดาวิดนับ) 5 ดาวิดตรัสว่า “ซาโลมอนบุตรชายของเรายังหนุ่มและอ่อนประสบการณ์ และพระนิเวศซึ่งจะถูกสร้างขึ้นสำหรับพระยาห์เวห์นั้นต้องงดงามอย่างยิ่ง เพื่อที่จะมีชื่อเสียงและสง่าราศีในแผ่นดินทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราจึงจะจัดเตรียมการก่อสร้างไว้” ดังนั้นดาวิดจึงได้ทรงจัดเตรียมไว้มากมายก่อนพระองค์สิ้นพระชนม์

6 จากนั้นพระองค์ได้ทรงเรียกหาซาโลมอนโอรสของพระองค์ และมีพระบัญชาแก่ท่านให้สร้างพระนิเวศสำหรับพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล 7 ดาวิดตรัสกับซาโลมอน ว่า “ลูกชายของเราเอ๋ย มันเป็นความตั้งใจของเราที่จะสร้างพระนิเวศด้วยตัวเรา สำหรับพระนามแห่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา 8 แต่พระยาห์เวห์ได้เสด็จมาหาเราและตรัสว่า ‘เจ้าได้ทำให้โลหิตตกเป็นอันมาก และได้ทำสงครามมากมาย เจ้าจะไม่ได้สร้างพระนิเวศเพื่อนามของเรา เพราะเจ้าได้ทำให้โลหิตตกเป็นอันมากบนพื้นแผ่นดินในสายตาของเรา

9 อย่างไรก็ดี เจ้าจะมีบุตรชายคนหนึ่งผู้ซึ่งจะเป็นสันติบุรุษ เราจะให้เขาพักสงบจากศัตรูทั้งสิ้นของเขาโดยรอบด้าน เพราะชื่อของเขาคือซาโลมอน และเราจะให้สันติภาพและความสงบแก่อิสราเอลในรัชสมัยของเขา 10 เขาจะสร้างนิเวศเพื่อนามของเรา เขาจะเป็นบุตรชายของเรา และเราจะเป็นบิดาของเขา เราจะสถาปนาบัลลังก์แห่งราชอาณาจักรของเขาเหนืออิสราเอลตลอดไปเป็นนิตย์’ 11 บัดนี้ บุตรชายของเราเอ๋ย ขอพระยาห์เวห์สถิตอยู่กับเจ้า และสามารถทำให้เจ้าประสบความสำเร็จ ขอให้เจ้าสร้างพระนิเวศของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ตามที่พระองค์ได้ตรัสว่าเจ้าจะทำ

12 ขอเพียงพระยาห์เวห์ประทานให้เจ้ามีความเฉลียวฉลาด และความเข้าใจ เพื่อที่เจ้าจะเชื่อฟังพระบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เมื่อพระองค์ตั้งเจ้าให้อยู่เหนืออิสราเอล 13 แล้วเจ้าจะประสบความสำเร็จ ถ้าเจ้าเชื่อฟังบทบัญญัติทั้งหลายและพระบัญชาทั้งหลายที่พระยาห์เวห์ได้ทรงประทานแก่โมเสสเกี่ยวกับอิสราเอลอย่างระมัดระวัง จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวและอย่าหวาดหวั่นเลย 14 บัดนี้จงดูเถิด เราได้จัดเตรียมไว้เพื่อพระนิเวศของพระยาห์เวห์ด้วยความเหนื่อยยาก เป็นทองคำ 100,000 ตะลันต์ เงินหนึ่งล้านตะลันต์ และทองสัมฤทธิ์และเหล็กจำนวนมากมาย เราได้เตรียมไม้และหินด้วย เจ้าต้องเพิ่มเติมอีกมากเพื่อทั้งหมดนี้ 15 เจ้ามีคนทำงานมากมายอยู่กับเจ้าคือ ช่างสกัดหิน ช่างก่อ ช่างไม้ และช่างผู้ชำนาญในงานทุกชนิด 16 ที่เกี่ยวกับทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ และเหล็ก ดังนั้นจงเริ่มต้นทำงานเถอะ และขอพระยาห์เวห์สถิตอยู่กับเจ้า”

17 ดาวิดได้ทรงบัญชาผู้นำทั้งปวงของอิสราเอลให้ช่วยซาโลมอนโอรสของพระองค์ด้วย ตรัสว่า 18 “พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านทรงอยู่กับพวกท่าน และได้ประทานสันติภาพในทุกๆ ด้าน พระองค์ได้ประทานชาวแผ่นดินนี้ไว้ในมือของเรา แผ่นดินนั้นก็ราบคาบเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์และต่อหน้าประชากรของพระองค์ 19 บัดนี้จงแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านด้วยจิตใจและจิตวิญญาณทั้งหมดของพวกท่าน จงลุกขึ้นและสร้างบริสุทธิ์สถานของพระยาห์เวห์พระเจ้า จากนั้นพวกเจ้าจึงจะสามารถนำหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ และบรรดาสิ่งที่เป็นของพระเจ้า เข้ามาในพระนิเวศที่สร้างขึ้นเพื่อพระนามของพระยาห์เวห์”

23

1 เมื่อดาวิดทรงชราและใกล้จะถึงวาระสุดท้ายแห่งชีวิต พระองค์ได้ทรงตั้งซาโลมอน พระราชโอรสของพระองค์เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล 2 พระองค์ทรงเรียกประชุมผู้นำทั้งสิ้นของอิสราเอล พร้อมทั้งบรรดาปุโรหิตและคนเลวี 3 คนเลวีที่มีอายุสามสิบปีและมากกว่านั้นก็ได้ถูกนับไว้ พวกเขานับได้สามหมื่นแปดพันคน ดาวิดตรัสว่า 4 “จากพวกนี้สองหมื่นสี่พันคนจะต้องดูแลการงานในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ และหกพันคนเป็นพวกเจ้าหน้าที่และพวกผู้วินิจฉัย 5 สี่พันคนเป็นพวกนายประตู และอีกสี่พันคนได้ให้ถวายสรรเสริญพระยาห์เวห์ด้วยเครื่องดนตรีต่างๆ ซึ่งเราทำไว้ให้ใช้สรรเสริญ”

6 พระองค์ได้ทรงจัดแบ่งพวกเขาเป็นกองๆ ตามพวกบุตรชายของคนเลวีคือเกอร์โชม โคฮาท และเมรารี 7 จากพวกตระกูลที่สืบเชื้อสายมาจากเกอร์โชมคือลาดาน และชิเมอี 8 บุตรชายของลาดานสามคนคือ เยฮีเอลเป็นผู้นำ เศธาม และโยเอล 9 บุตรชายชิเมอีสามคนคือ เชโลโมท ฮาซีเอล และฮาราน คนเหล่านี้เป็นผู้นำของตระกูลลาดาน 10 บุตรชายสี่คนของชิเมอีคือ ยาหาท คินา เยอูช และเบรียาห์ 11 ยาหาทเป็นบุตรชายคนโต และศิซาห์เป็นคนที่สอง แต่เยอูชและเบรียาห์ ไม่มีบุตรชายหลายคน เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงถูกนับเป็นตระกูลเดียวมีหน้าที่ทั้งหลายอย่างเดียวกัน

12 บุตรชายสี่คนของโคฮาทคืออัมราม อิสฮาร์ เฮโบรน และอุสซีเอล 13 บุตรชายทั้งหลายของอัมรามคืออาโรน และโมเสส อาโรนได้ถูกเลือกแยกออกต่างหาก พวกสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุด ซึ่งเขาและพวกเชื้อสายของเขาจะเผาเครื่องหอมเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ เพื่อปรนนิบัติพระองค์ และอวยพรในพระนามของพระองค์ตลอดไปเป็นนิตย์ 14 ส่วนโมเสสคนของพระเจ้านั้น บุตรชายทั้งหลายของเขาถูกจัดเป็นคนเผ่าเลวี 15 พวกบุตรชายของโมเสสคือเกอร์โชมและเอลีเอเซอร์

16 เชื้อสายของเกอร์โชมคือเชบูเอล บุตรชายคนโต 17 เชื้อสายของเอลีเอเซอร์คือเรหับยาห์ เอลีเอเซอร์ไม่มีบุตรอีก แต่เรหับยาห์มีเชื้อสายมากมาย 18 บุตรชายของอิสฮาร์คือเชโลมิทเป็นผู้นำ 19 เชื้อสายทั้งหลายของเฮโบรนคือเยรียาห์บุตรชายคนโต อามาริยาห์เป็นคนที่สอง ยาฮาซีเอลเป็นคนที่สาม และเยคาเมอัมเป็นคนที่สี่ 20 บุตรชายทั้งหลายของอุสซีเอลคือมีคาห์ เป็นบุตรชายคนโต และอิสชีอาห์เป็นคนที่สอง

21 บุตรชายทั้งหลายของเมรารีคือมาห์ลี และมูชี บุตรชายทั้งหลายของมาห์ลีคือ เอเลอาซาร์ และคีช 22 เอเลอาซาร์สิ้นชีวิตโดยไม่มีบุตรชาย เขามีแต่บุตรหญิงหลายคน บุตรชายทั้งหลายของคีชได้แต่งงานกับพวกเขา 23 บุตรชายสามคนของมูชีคือมาห์ลี เอเดอร์ และเยเรโมท

24 คนเหล่านี้เป็นเชื้อสายทั้งหลายของคนเลวีตามตระกูลของพวกเขา พวกเขาเป็นพวกผู้นำ ได้ถูกนับและขึ้นบัญชีโดยชื่อของตระกูลทั้งหลายที่ได้ทำงานในงานปรนนิบัติของพระนิเวศของพระยาห์เวห์ อายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป 25 เพราะดาวิดได้ตรัสว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลได้ประทานการหยุดพักสงบแก่ประชากรของพระองค์ พระองค์ทรงทำให้กรุงเยรูซาเล็มเป็นพระนิเวศของพระองค์ตลอดเป็นนิตย์ 26 คนเลวีจะไม่ต้องหามพลับพลา และเครื่องใช้ทั้งหมดที่ใช้ในงานปรนนิบัติอีก” 27 เพราะโดยพระดำรัสสุดท้ายของดาวิด คนเลวีได้ถูกนับตั้งแต่อายุยี่สิปีขึ้นไป

28 หน้าที่ของพวกเขาคือเพื่อช่วยพวกเชื้อสายของอาโรนในงานปรนนิบัติของพระนิเวศแห่งพระยาห์เวห์ พวกเขามีงานดูแลลานและพวกห้องและพิธีชำระของทุกอย่างที่เป็นของพระยาห์เวห์ และงานอื่นๆ ในการปรนนิบัติของพระนิเวศของพระเจ้า 29 พวกเขาได้ดูแลเกี่ยวกับขนมปังที่ตั้งถวายเฉพาะพระพักตร์ แป้งอย่างดีสำหรับธัญบูชา ขนมปังไร้เชื้อ ของปิ้งบูชา ของบูชาเคล้าน้ำมัน และการชั่งตวงวัดทุกอย่างและขนาดของสิ่งต่างๆ 30 และทุกๆ เช้า เขาจะต้องยืนเพื่อขอบพระคุณและสรรเสริญพระยาห์เวห์ พวกเขาได้ทำสิ่งนี้ในเวลาเย็นด้วย 31 และทุกครั้งเมื่อมีการถวายเครื่องเผาบูชาแด่พระยาห์เวห์ในวันสะบาโต และในเทศกาลวันขึ้นหนึ่งค่ำและวันเทศกาลเลี้ยงทั้งหลาย จำนวนที่กำหนด ได้ถูกมอบหมายโดยคำสั่ง ให้ต้องถวายบูชาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์เรื่อยไป 32 พวกเขาได้ดูแลเต็นท์นัดพบ วิสุทธิสถาน และได้ช่วยเพื่อนร่วมงานของพวกเขา เชื้อสายทั้งหลายของอาโรน เพื่องานปรนนิบัติแห่งพระนิเวศของพระยาห์เวห์

24

1 พวกกลุ่มทำงานจากบรรดาเชื้อสายอาโรนคือคนเหล่านี้ นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ และอิธามาร์ 2 นาดับและอาบีฮูสิ้นชีวิตก่อนบิดาของพวกเขาสิ้นชีวิต พวกเขาไม่มีบุตร ดังนั้นเอเลอาซาร์และอิธามาร์จึงได้รับใช้เหมือนพวกปุโรหิต 3 ดาวิดร่วมกับศาโดกเชื้อสายคนหนึ่งของเอเลอาซาร์ และอาหิเมเลคเชื้อสายคนหนึ่งของอิธามาร์ ได้แบ่งพวกเขาเป็นกลุ่มต่างๆ เพราะงานของพวกเขาเหมือนพวกปุโรหิต 4 ยังมีพวกผู้นำผู้ชายมากกว่านี้อีกในท่ามกลางเชื้อสายทั้งหลายของเอเลอาซาร์มากกว่าท่ามกลางเชื้อสายทั้งหลายอิธามาห์ ดังนั้นพวกเขาจึงได้แบ่งเชื้อสายทั้งหลายของเอเลอาซาร์เป็นสิบหกกลุ่ม พวกเขาได้กระทำสิ่งนี้โดยหัวหน้าทั้งหลายของพวกตระกูล และโดยพวกเชื้อสายของอิธามาร์ การแบ่งเหล่านี้มีจำนวนแปดกลุ่มตามตระกูลของพวกเขา 5 พวกเขาได้แบ่งพวกเขาอย่างยุติธรรมโดยฉลาก เพราะมีพวกเจ้าหน้าที่สำหรับบริสุทธิ์สถาน และพวกเจ้าหน้าที่ของพระเจ้า จากทั้งพวกเชื้อสายของเอเลอาซาร์และพวกเชื้อสายของอิธามาร์ 6 เชไมอาห์ บุตรชายของนาธันเอลอาลักษณ์ คนเลวี ที่ได้เขียนชื่อพวกเขาไว้เฉพาะพระพักตร์กษัตริย์ ต่อหน้าพวกข้าราชการ ปุโรหิตศาโดก อาหิเมเลคบุตรชายของอาบียาธาร์ และบรรดาผู้นำของพวกครอบครัวปุโรหิตและของคนเลวี ตระกูลหนึ่งถูกเลือกโดยฉลากจากพวกเชื้อสายของเอเลอาซาร์ และจากนั้นต่อไปจะจับฉลากจากพวกเชื้อสายของอิธามาร์

7 ฉลากใบแรกตกกับเยโฮยาริบ ใบที่สองตกแก่เยดายาห์ 8 ใบที่สามแก่ฮาริม ใบที่สี่แก่เสโอริม 9 ใบที่ห้าแก่มัลคิยาห์ ใบที่หกแก่มิยามิน 10 ใบที่เจ็ดแก่ฮักโขส ใบที่แปดแก่อาบียาห์ 11 ใบที่เก้าแก่เยชูอา ใบที่สิบแก่เชคานิยาห์

12 ใบที่สิบเอ็ดแก่เอลียาชีบ ใบที่สิบสองแก่ยาคิม 13 ใบที่สิบสามแก่หุปปาห์ ใบที่สิบสี่แก่เยเชเบอับ 14 ใบที่สิบห้าแก่บิลกาห์ ใบที่สิบหกแก่อิมเมร์ 15 ใบที่สิบเจ็ดแก่เฮซีร์ ใบที่สิบแปดแก่ฮัปปิสเซส 16 ใบที่สิบเก้าแก่เปธาหิยาห์ ใบที่ยี่สิบแก่เยเฮเซเคล

17 ใบที่ยี่สิบเอ็ดแก่ยาคีน ใบที่ยี่สิบสองแก่กามูล 18 ใบที่ยี่สิบสามแก่เดไลยาห์ ใบที่ยี่สิบสี่แก่มาอาซิยาห์ 19 นี่คือระเบียบของการปรนนิบัติรับใช้ของพวกเขา เมื่อพวกเขาได้เข้ามายังพระนิเวศของพระยาห์เวห์ ตามขั้นตอนที่ได้กำหนดแก่พวกเขาโดยอาโรน บรรพบุรุษของพวกเขา ดังที่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลได้ทรงบัญชาเขา

20 คนเหล่านี้คือส่วนที่เหลือของเลวีคือของพวกบุตรชายของอัมราม ชูบาเอล ของพวกบุตรชายของชูบาเอล เยเดยาห์ 21 พวกบุตรชายของเรหับยาห์ ของพวกบุตรชายของเรหับยาห์ อิสฮาร์เป็นผู้นำ 22 ของอิสฮาร์ เชโลโมท ของพวกบุตรชายของเชโลโมท ยาหาท 23 พวกบุตรชายของเฮโบรนคือเยรียาห์เป็นผู้นำ อามาริยาห์ที่สอง ยาฮาซีเอลที่สาม และเยคาเมอัมที่สี่

24 บุตรชายของเชื้อสายของอุสซีเอลรวมทั้งมีคาห์ เชื้อสายของมีคาห์รวมทั้งชามีร์ 25 น้องชายของมีคาห์คืออิสชียาห์ พวกบุตรชายของอิสชียาห์รวมทั้งเศคาริยาห์ 26 พวกบุตรชายเมรารีคือมาห์ลีและมูชี บุตรชายของยาอาซียาห์คือเบโน 27 พวกบุตรชายของเมรารีคือยาอาซียาห์ เบโน โชฮัม ศักเกอร์ และอิบรี 28 พวกบุตรชายของมาห์ลีคือเอเลอาซาร์ผู้ไม่มีบุตรชาย

29 พวกบุตรชายของคีช บุตรชายทั้งหลายของคิชคือ เยราเมเอล 30 บุตรชายทั้งหลายของมูชีคือมาห์ลี เอเดอร์ และเยรีโมท คนเหล่านี้คือคนเลวี ลำดับตามพวกครอบครัวของพวกเขา 31 ผู้ชายเหล่านี้ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าของครัวเรือนของบิดาของแต่ละคน และพวกน้องของพวกเขาแต่ละคนก็ได้จับฉลากต่อพระพักตร์กษัตริย์ดาวิดและศาโดก และอาหิเมเลค พร้อมกับผู้นำทั้งหลายของคอบครัวทั้งหลายของพวกปุโรหิตและเลวี พวกเขาได้จับฉลากเหมือนที่เหล่าเชื้อสายทั้งหลายของอาโรนได้กระทำ

25

1 ดาวิดและบรรดาผู้นำงานพลับพลาได้เลือกงานเพื่อพวกบุตรชายของอาสาฟ ของเฮมาน และของเยดูธูน ผู้ชายเหล่านี้ได้เผยพระวจนะด้วยพิณใหญ่ ด้วยเครื่องสายทั้งหลาย ด้วยพวกฉาบ นี่คือรายชื่อพวกผู้ชายผู้ที่ได้ทำงานนี้ 2 จากพวกบุตรชายของอาสาฟคือศักเกอร์ โยเซฟ เนธานิยาห์ และอาชาเรลาห์ พวกบุตรชายของอาสาฟ ภายใต้การนำของอาสาฟ ผู้ได้เผยพระวจนะภายใต้การทรงควบคุมดูแลของกษัตริย์ 3 จากพวกบุตรชายของเยดูธูนคือเกดาลิยาห์ เศรี เยชายาห์ ชิเมอี ฮาชาบิยาห์ และมัททีธิยาห์ รวมหกคนภายใต้การนำของบิดาของพวกเขาคือเยดูธูน ผู้เล่นพิณใหญ่เพื่อการขอบพระคุณและการสรรเสริญพระยาห์เวห์ 4 จากพวกบุตรชายของเฮมานคือบุคคียาห์ มัทธานิยาห์ อุสซีเอล เชบูเอล และเยรีโมท ฮานานิยาห์ ฮานานี เอลียาธาห์ กิดดาลที โรมัมทีเอเซอร์ โยชเบคาชาห์ มัลโลธี โฮธีร์ และมาหะซิโอท 5 คนทั้งหมดนี้เป็นพวกบุตรชายของเฮมานผู้เผยพระวจนะของกษัตริย์ พระเจ้าได้ประทานบุตรชายสิบสี่คน และบุตรหญิงสามคนแก่เฮมานเพื่อเป็นยกชูเขาของเขาขึ้น

6 คนทั้งหมดเหล่านี้อยู่ภายใต้การนำของบิดาของพวกเขา พวกเขาเป็นนักดนตรีในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ ด้วยฉาบ และเครื่องสายทั้งหลาย เมื่อพวกเขาได้ปรนนิบัติในพระนิเวศของพระเจ้า อาสาฟ เยดูธูน และเฮมานได้อยู่ภายใต้การทรงควบคุมดูแลของกษัตริย์ 7 พวกเขาและพี่น้องของพวกเขาผู้ซึ่งมีความชำนาญ และรับการฝึกในเรื่องดนตรีถวายพระยาห์เวห์มีจำนวน 288 คน 8 เขาทั้งหลายจับฉลากเพื่อหน้าที่ของพวกเขา ทั้งหมดเหมือนกันสำหรับคนหนุ่มหรือคนแก่ ครูกับศิษย์ก็เหมือนกัน

9 บัดนี้เกี่ยวกับพวกบุตรชายของอาสาฟ ฉลากใบแรกตกเป็นของครอบครัวของโยเซฟ ฉลากใบที่สองตกเป็นของครอบครัวของเกดาลิยาห์ พวกบุตรชายของเขาสิบสองคน 10 ฉลากใบที่สามตกเป็นของศักเกอร์ พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 11 ฉลากใบที่สี่ตกเป็นของอิสรี พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 12 ฉลากใบที่ห้าตกเป็นของเนธานิยาห์ พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 13 ฉลากใบที่หกตกเป็นของบุคคิยาห์ พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน

14 ฉลากใบที่เจ็ดตกเป็นของเยชาเรลาห์ พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 15 ฉลากใบที่แปดตกเป็นของเยชายาห์ พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 16 ฉลากใบที่เก้าตกเป็นของมัทธานิยาห์ พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 17 ฉลากใบที่สิบตกเป็นของชิเมอี พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 18 ฉลากใบที่สิบเอ็ดตกเป็นของอาซาเรล พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน

19 ฉลากใบที่สิบสองตกเป็นของฮาชาบิยาห์ พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 20 ฉลากใบที่สิบสามตกเป็นของชูบาเอล พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 21 ฉลากใบที่สิบสี่ตกเป็นของมัททีธิยาห์ พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 22 ฉลากใบที่สิบห้าตกเป็นของเยเรโมท พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 23 ฉลากใบที่สิบหกตกเป็นของฮานานิยาห์ พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน

24 ฉลากใบที่สิบเจ็ดตกเป็นของโยชเบคาชาห์ พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 25 ฉลากใบที่สิบแปดตกเป็นของฮานานี พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 26 ฉลากใบที่สิบเก้าตกเป็นของมัลโลธี พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 27 ฉลากใบที่ยี่สิบตกเป็นของเอลียาธาห์ พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 28 ฉลากใบที่ยี่สิบเอ็ดตกเป็นของโฮธีร์ พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน

29 ฉลากใบที่ยี่สิบสองตกเป็นของกิดดาลที พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 30 ฉลากใบที่ยี่สิบสามตกเป็นของมาหะซิโอท พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน 31 ฉลากใบที่ยี่สิบสี่ตกเป็นของโรมัมทีเอเซอร์ พวกบุตรชายของเขา และพวกญาติพี่น้องของเขาจำนวนสิบสองคน

26

1 นี่คือแผนกทั้งหลายของพวกคนเฝ้าประตู จากคนโคราห์ มีเมเชเลมิยาห์บุตรชายของโคเร เชื้อสายคนหนึ่งของอาสาฟ 2 เมเชเลมิยาห์มีบุตรชายทั้งหลายคือเศคาริยาห์บุตรหัวปี เยดียาเอลคนที่สอง เศบาดิยาห์คนที่สาม ยาทนีเอลคนที่สี่ 3 เอลามคนที่ห้า เยโฮฮานันคนที่หก เอลีโฮเอนัยคนที่เจ็ด 4 และโอเบดเอโดมมีบุตรชายทั้งหลายคือ เชไมอาห์บุตรหัวปี เยโฮซาบาดคนที่สอง โยอาห์คนที่สาม สาคาร์คนที่สี่ เนธันเอลคนที่ห้า 5 อัมมีเอลคนที่หก อิสสาคาร์คนที่เจ็ด เปอุลเลธัยคนที่แปด เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงอวยพรโอเบดเอโดม

6 แก่เชไมอาห์บุตรชายของเขา ผู้มีบุตรชายหลายคนเกิดกับเขา ผู้ได้ปกครองเหนือครอบครัวทั้งหลายของพวกเขา เขาทั้งหลายเป็นพวกผู้ชายที่มีความสามารถหลายอย่าง 7 บุตรชายทั้งหลายของเชไมอาห์คือโอทนี เรฟาเอล โอเบด และเอลซาบาด พวกญาติพี่น้องของเขาคือเอลีฮู และเสมาคิยาห์ก็เป็นพวกผู้ชายที่มีความสามารถหลายอย่างด้วย 8 คนเหล่านี้ทั้งหมดเป็นพวกเชื้อสายของโอเบดเอโดม พวกเขากับพวกบุตรชายของพวกเขา และพวกญาติพี่น้องของพวกเขาเป็นพวกผู้ชายที่มีความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ในการปรนนิบัติที่เต็นท์นัดพบ ในพวกเขามีจำนวนหกสิบสองคนที่มีความสัมพันธ์กับโอเบดเอโดม 9 เมเชเลมิยาห์มีบุตรชายหลายคน และพวกญาติพี่น้องเป็นพวกผู้ชายที่มีความสามารถมีทั้งหมดสิบแปดคน 10 โฮสาห์ เชื้อสายคนหนึ่งของเมรารี มีบุตรชายหลายคน มีชิมรีเป็นผู้นำ (ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เป็นบุตรหัวปี บิดาของเขาได้ตั้งให้เขาเป็นผู้นำ) 11 ฮิลคียาคนที่สอง เทบาลิยาห์คนที่สาม เศคาริยาห์คนที่สี่ พวกบุตรชายทั้งหมด และพวกพี่น้องทั้งสิ้นมีสิบสามคน

12 แผนกทั้งหลายของพวกคนเฝ้าประตู สอดคล้องตามบรรดาผู้นำของพวกเขา มีหน้าที่ต่างๆ เช่นเดียวกับพวกญาติพี่น้องของพวกเขา ในการปรนนิบัติในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ 13 พวกเขาได้จับฉลากกันทั้งคนหนุ่มและคนแก่ เป็นไปตามครอบครัวทั้งหลายของพวกเขาสำหรับทุกประตู 14 เมื่อฉลากนั้นถูกจับสำหรับประตูด้านตะวันออก ฉลากนั้นได้ตกแก่เชเลมิยาห์ จากนั้นพวกเขาได้จับฉลากสำหรับเศคาริยาห์บุตรชายของเขา ที่ปรึกษาที่เฉลียวฉลาด และฉลากของเขาออกมาสำหรับประตูด้านเหนือ 15 สำหรับโอเบดเอโดมได้ถูกมอบหมายสำหรับประตูด้านใต้ และพวกบุตรชายของเขาได้รับมอบหมายให้ดูแลคลังพัสดุ

16 ชุปปิมและโฮสาห์ได้ถูกมอบหมายให้ดูแลประตูด้านตะวันตกพร้อมกับประตูชัลเลเคท ตามถนนด้านบน การเฝ้ายามได้ตั้งขึ้นสำหรับแต่ละครอบครัว 17 ด้านตะวันออกมีคนเลวีหกคน ด้านเหนือวันละสี่คน ด้านใต้วันละสี่คน และสองคู่ที่คลังพัสดุ 18 สำหรับลานทางตะวันตกนั้นมีสี่คน สี่คนที่ถนนและสองคนที่ลานนั้น 19 เหล่านี้เป็นแผนกเฝ้าประตูทั้งหลาย พวกเขามาจากเชื้อสายทั้งหลายของโคราห์ และเมรารี

20 ท่ามกลางคนเลวี อาหิยาห์ได้ดูแลคลังพระนิเวศของพระเจ้า และคลังสิ่งของที่เป็นของพระยาห์เวห์ 21 พวกเชื้อสายของลาดาน ได้สืบเชื้อสายมาจากเกอร์โชน ผ่านทางเขาและผู้ซึ่งเป็นพวกผู้นำของครอบครัวทั้งหลายของลาดานคนเกอร์โชน คือเยฮีเอลี 22 พวกบุตรชายของเยฮีเอลีเศธาม และโยเอลน้องชายของเขา ได้ดูแลคลังพระนิเวศของพระยาห์เวห์ 23 มีพวกรักษาความปลอดภัยจากพวกตระกูลของคนอัมราม คนอิสฮาร์ คนเฮโบรน และคนอุสซีเอล 24 เชบูเอลบุตรชายเกอร์โชม บุตรชายของโมเสส เป็นผู้ดูแลคลังทั้งหลาย

25 พวกญาติพี่น้องของเขาจากตระกูลของเอลีเอเซอร์คือบุตรชายของเขาเรหับยาห์ บุตรชายของเรหับยาห์คือเยชายาห์ บุตรชายของเยชายาห์คือโยรัม บุตรชายของโยรัมคือศิครี และบุตรชายของศิครีคือเชโลโมท 26 เชโลโมทและพวกญาติพี่น้องของเขาเป็นผู้ดูแลคลังที่เก็บสิ่งต่างๆ ที่เป็นของพระยาห์เวห์ทั้งสิ้น ซึ่งกษัตริย์ดาวิด และบรรดาผู้นำครอบครัวทั้งหลาย เหล่าผู้บังคับบัญชานายพันและนายร้อย และเหล่าผู้บัญชาการกองทัพที่แยกไว้ต่างหาก 27 พวกเขาได้แยกสิ่งที่ยึดมาจากสงครามทั้งหลาย เพื่อการดูแลรักษาพระนิเวศของพระยาห์เวห์ 28 พวกเขาได้รับผิดชอบทุกสิ่งที่แยกไว้ต่างหากเพื่อพระยาห์เวห์ โดยซามูเอลผู้เผยพระวจนะ ซาอูลบุตรชายของคีช อับเนอร์บุตรชายของเนอร์และโยอาบบุตรชายของนางเศรุยาห์ของทุกสิ่งที่ถูกแยกไว้ต่างหากเพื่อพระยาห์เวห์อยู่ภายใต้การรักษาความปลอดภัยของเชโลโมทและพวกญาติพี่น้องของเขา

29 พวกเชื้อสายของอิสฮาร์คือเคนานิยาห์ และพวกบุตรชายของเขาได้รับแต่งตั้งให้ดูแลงานด้านพลเรือนของอิสราเอล พวกเขาเป็นพวกเจ้าหน้าที่และพวกผู้พิพากษา 30 ของพวกเชื้อสายคนเฮโบรนคือฮาชาบิยาห์ และพวกพี่น้องของเขา 1,700 คน ที่เป็นผู้ชายที่มีความสามารถ เป็นผู้ดูแลงานของพระยาห์เวห์ และงานของกษัตริย์ พวกเขาอยู่ทางฟากตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน 31 จากพวกเชื้อสายของคนเฮโบรนคือ เยรียาห์เป็นผู้นำของพวกเชื้อสายของเขา ได้นับจากบัญชีรายชื่อของครอบครัวทั้งหลายของพวกเขา ในปีที่สี่สิบของรัชกาลดาวิด พวกเขาได้สำรวจบันทึกต่างๆ และพบว่าท่ามกลางพวกเขามีพวกผู้ชายที่มีความสามารถในยาเซอร์แห่งกิเลอาด 32 เยรียาห์มีญาติพี่น้องจำนวน 2,700 คน ผู้ซึ่งเป็นพวกครอบครัวผู้นำ กษัตริย์ดาวิดได้ทรงแต่งตั้งพวกเขาให้ดูแลพวกเผ่าทั้งหลายคือรูเบน และกาด และเผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่า สำหรับเรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวกับพระเจ้า และสำหรับพระราชกิจต่างๆ ของกษัตริย์

27

1 นี่เป็นบัญชีรายชื่อพวกผู้นำครอบครัวอิสราเอล พวกผู้บัญชาการนายพัน พวกผู้บัญชาการนายร้อย และบรรดาเจ้าหน้าที่กองทัพผู้ซึ่งรับใช้กษัตริย์ในราชการต่างๆ กองทหารแต่ละส่วนรับใช้เดือนต่อเดือนตลอดทั้งปี แต่ละส่วนมีผู้ชายจำนวนสองหมื่นสี่พันคน 2 ส่วนที่รับผิดชอบสำหรับเดือนแรกคือยาโชเบอัมบุตรชายของศับดีเอล ในส่วนของเขามีผู้ชายจำนวนสองหมื่นสี่พันคน 3 เขาเป็นพวกเชื้อสายของเปเรศ และเป็นผู้บัญชาการเหนือพวกเจ้าหน้าที่กองทัพทั้งสิ้นสำหรับเดือนแรก 4 เหนือส่วนสำหรับเดือนที่สองคือโดดัยจากตระกูลที่ได้สืบเชื้อสายมาจากคนอาโหอาห์ มิกโลทเป็นที่สอง ในส่วนของเขามีผู้ชายจำนวนสองหมื่นสี่พันคน

5 ผู้บัญชาการกองทัพสำหรับเดือนที่สามคือเบไนยาห์บุตรชายของเยโฮยาดา ปุโรหิตคนหนึ่ง และเป็นผู้นำ ในส่วนของเขามีผู้ชายจำนวนสองหมื่นสี่พันคน 6 นี่คือเบไนยาห์ผู้เป็นผู้นำนักรบผู้กล้าหาญสามสิบคน และอยู่เหนือสามสิบคนนั้น อัมมีซาบาดบุตรชายของเขาได้อยู่ในส่วนของเขา 7 ผู้บัญชาการสำหรับเดือนที่สี่คืออาสาเฮลน้องชายของโยอาบ เศบาดิยาห์บุตรชายของเขาได้เป็นผู้บัญชาการต่อจากเขา ในส่วนของเขามีผู้ชายจำนวนสองหมื่นสี่พันคน 8 ผู้บัญชาการสำหรับเดือนที่ห้าคือชัมหุท เชื้อสายของอิสราห์ ในส่วนของเขามีผู้ชายจำนวนสองหมื่นสี่พันคน 9 ผู้บัญชาการสำหรับเดือนที่หกคืออิราบุตรชายของอิกเขช จากเมืองเทโคอา ในส่วนของเขามีผู้ชายจำนวนสองหมื่นสี่พันคน

10 ผู้บัญชาการสำหรับเดือนที่เจ็ดคือเฮเลส คนเปโลน จากพงศ์พันธุ์เอฟราอิม ในส่วนของเขามีผู้ชายจำนวนสองหมื่นสี่พันคน 11 ผู้บัญชาการสำหรับเดือนที่แปดคือสิบเบคัย คนหุชา จากตระกูลที่ได้สืบเชื้อสายมาจากคนเศราห์ ในส่วนของเขามีผู้ชายจำนวนสองหมื่นสี่พันคน 12 ผู้บัญชาการสำหรับเดือนที่เก้าคืออาบีเอเซอร์ คนอานาโธท จากเผ่าเบนยามิน ในส่วนของเขามีผู้ชายจำนวนสองหมื่นสี่พันคน 13 ผู้บัญชาการสำหรับเดือนที่สิบคือมาหะรัย จากเมืองเนโทฟาห์ จากตระกูลผู้ที่ได้สืบเชื้อสายจากคนเศราห์ ในส่วนของเขามีผู้ชายจำนวนสองหมื่นสี่พันคน 14 ผู้บัญชาการสำหรับเดือนที่สิบเอ็ดคือเบไนยาห์ จากเมืองปิราโธน จากเผ่าเอฟราอิม ในส่วนของเขามีผู้ชายจำนวนสองหมื่นสี่พันคน 15 ผู้บัญชาการสำหรับเดือนที่สิบสองคือเฮลดัย จากเมืองเนโทฟาห์ จากตระกูลที่ได้สืบเชื้อสายมาจากคนโอทนีเอล ในส่วนของเขามีผู้ชายจำนวนสองหมื่นสี่พันคน

16 คนเหล่านี้คือพวกผู้นำของเผ่าต่างๆ ของอิสราเอลคือ สำหรับเผ่ารูเบนมีเอลีเอเซอร์บุตรชายของศิครีได้เป็นผู้นำ สำหรับเผ่าสิเมโอนมีเชฟาทิยาห์บุตรชายมาอาคาห์ได้เป็นผู้นำ 17 สำหรับเผ่าเลวีมีฮาชาบิยาห์บุตรชายเคมูเอลได้เป็นผู้นำ ศาโดกได้เป็นผู้นำเหล่าเชื้อสายของอาโรน 18 สำหรับเผ่ายูดาห์มีเอลีฮู พี่ชายคนหนึ่งของดาวิดได้เป็นผู้นำ สำหรับเผ่าอิสสาคาร์มีอมรีบุตรชายมีคาเอลได้เป็นผู้นำ 19 สำหรับเผ่าเศบูลุนมีอิชมัยอาห์บุตรชายโอบาดีห์ได้เป็นผู้นำ สำหรับเผ่านัฟทาลีมีเยเรโมทบุตรชายอัสรีเอลได้เป็นผู้นำ 20 สำหรับเผ่าเอฟราอิมมีโฮเชยาบุตรชายอาซาซิยาห์ได้เป็นผู้นำ สำหรับเผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่ามีโยเอลบุตรเปดายาห์ได้เป็นผู้นำ 21 สำหรับมนัสเสห์ครึ่งเผ่าในกิเลอาดมีอิดโดบุตรชายเศคาริยาห์ได้เป็นผู้นำ สำหรับเผ่าเบนยามินมียาอาซีเอลบุตรชายอับเนอร์ได้เป็นผู้นำ 22 สำหรับเผ่าดานมีอาซาเรล บุตรชายเยโรฮัมได้เป็นผู้นำ คนเหล่านี้ได้เป็นพวกผู้นำเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล

23 ดาวิดไม่ได้ทรงนับคนเหล่านั้นที่มีอายุยี่สิบปี หรือต่ำกว่า เพราะพระยาห์เวห์ได้ทรงสัญญาที่จะเพิ่มคนอิสราเอลมากขึ้นเหมือนพวกดาวในท้องฟ้า 24 โยอาบบุตรชายนางเศรุยาห์ได้เริ่มต้นที่จะนับพวกผู้ชาย แต่ไม่สำเร็จ ถึงกระนั้นพระพิโรธก็ได้มาเหนืออิสราเอลเพราะเรื่องนี้ และจำนวนนี้ก็ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารของกษัตริย์ดาวิด

25 อัสมาเวทบุตรชายอาดีเอลได้เป็นผู้ดูแลพระคลังของกษัตริย์ โยนาธานบุตรชายของอุสซียาห์ได้เป็นผู้ดูแลคลังทั้งหลายในบรรดาท้องทุ่ง ในเมืองต่างๆ และในหมู่บ้านต่างๆ และในป้อมที่แข็งแรงทั้งหลาย 26 เอสรีบุตรชายเคลูบได้เป็นผู้ดูแลพวกชาวนา บรรดาคนเหล่านั้นผู้ไถแผ่นดินนั้น 27 ชิเมอีจากเมืองรามาห์ได้ดูแลบรรดาสวนองุ่น และศับดีจากเมืองเชฟามได้ดูแลผลิตผลของสวนองุ่นและห้องเก็บเหล้าองุ่น 28 บาอัลฮานัน จากเมืองเกเดอร์เป็นผู้ดูแลพวกต้นมะกอก และพวกต้นมะเดื่อที่อยู่ในที่ลุ่มทั้งหลาย โยอาชได้ดูแลห้องเก็บน้ำมัน 29 ชิตรัยจากเมืองชาโรนได้ดูแลฝูงโคซึ่งถูกเลี้ยงในชาโรน ชาฟัทบุตรชายอัดลัยได้ดูแลฝูงโคในหุบเขา 30 และโอบิลคนอิชมาเอลได้ดูแลพวกอูฐ เยดายาห์จากเมืองเมโรโนทได้ดูแลพวกลาตัวเมีย ยาซีสคนฮาการ์ได้ดูแลฝูงแพะแกะ 31 คนทั้งหมดเหล่านี้ได้เป็นพวกผู้ดูแลทรัพย์สมบัติของกษัตริย์ดาวิด

32 โยนาธานลุงของดาวิดได้เป็นที่ปรึกษา เพราะเขาเป็นคนฉลาดและเป็นอาลักษณ์ เยฮีเอลบุตรชายฮัคโมนีเป็นผู้ดูแลบรรดาโอรสของกษัตริย์ 33 อาหิโธเฟลได้เป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์ และหุชัยจากคนอารคีเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของกษัตริย์ 34 ตำแหน่งของอาหิโธเฟลได้ถูกรับช่วงต่อโดยเยโฮยาดาบุตรชายเบไนยาห์ และโดยอาบียาธาร์ โยอาบได้เป็นผู้บัญชาการกองทัพของกษัตริย์

28

1 ดาวิดได้ทรงเรียกประชุมบรรดาข้าราชการทั้งสิ้นของอิสราเอลที่เยรูซาเล็มคือพวกผู้นำของเผ่าทั้งหลาย ผู้บัญชาการส่วนต่างๆ ที่รับใช้กษัตริย์ในงานที่ได้กำหนดไว้แล้ว พวกผู้บัญชาการนายพันและนายร้อย พวกเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ทั้งหมด และบรรดาโอรสของพระองค์ และพวกข้าราชสำนัก และพวกนักรบ รวมทั้งผู้ที่มีความเชี่ยวชาญที่สุดของพวกเขา 2 แล้วกษัตริย์ดาวิดได้ทรงลุกขึ้นยืนและตรัสว่า “บรรดาพี่น้อง และประชาชนทั้งหลายของข้าพเจ้า จงฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีความประสงค์ที่จะสร้างพระวิหารสำหรับหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์คือที่รองพระบาทสำหรับพระเจ้าของเรา และข้าพเจ้าได้จัดเตรียมการก่อสร้างไว้แล้ว 3 แต่พระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เจ้าอย่าสร้างนิเวศเพื่อนามของเราเลย เพราะเจ้าเป็นนักรบและทำให้เลือดไหลนองมากมาย’ 4 ถึงกระนั้นก็ดีพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ทรงเลือกข้าพเจ้าจากครอบครัวทั้งหมดของบิดาข้าพเจ้า ให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลตลอดไป พระองค์ทรงเลือกเผ่ายูดาห์ให้เป็นผู้นำ ในเผ่ายูดาห์และในครัวเรือนของข้าพเจ้า และจากบรรดาบุตรชายของบิดาข้าพเจ้า พระองค์ทรงเลือกให้ข้าพเจ้าเป็นกษัตริย์เหนือคนอิสราเอลทั้งปวง 5 และจากบุตรชายทั้งหลายของข้าพเจ้าผู้ซึ่งพระยาห์เวห์ประทานแก่ข้าพเจ้า พระองค์ทรงเลือกซาโลมอนบุตรชายของข้าพเจ้า ให้นั่งบนบัลลังก์แห่งราชอาณาจักรของพระยาห์เวห์เหนืออิสราเอล

6 พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘ซาโลมอนบุตรชายของเจ้าจะสร้างนิเวศของเราและลานนิเวศของเรา เพราะเราได้เลือกเขาให้เป็นบุตรชายของเรา และเราจะเป็นบิดาของเขา 7 เราจะสถาปนาราชอาณาจักรของเขาให้อยู่เป็นนิตย์ ถ้าเขาจะแน่วแน่ที่จะเชื่อฟังบรรดาบัญญัติและกฎหมายของเรา อย่างที่เจ้าทำอยู่ในวันนี้’ 8 เพราะฉะนั้นในสายตาของคนอิสราเอลทั้งปวง ที่ประชุมนี้สำหรับพระยาห์เวห์ และในการประทับอยู่ของพระเจ้าของเรา พวกเจ้าทั้งหลายจงรักษาและพยายามปฏิบัติตามพระบัญญัติทั้งสิ้นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย จงกระทำอย่างนี้เพื่อพวกเจ้าจะได้กรรมสิทธิ์แผ่นดินอันดีนี้ และให้เป็นมรดกของลูกหลานผู้มาภายหลังเจ้า ตลอดนิรันดร์

9 ส่วนเจ้า ซาโลมอนลูกชายของเรา จงเชื่อฟังพระเจ้าของพ่อของเจ้า และปรนนิบัติพระองค์ด้วยความเต็มใจและด้วยใจยินดี จงกระทำอย่างนี้เพราะพระยาห์เวห์ทรงตรวจสอบจิตใจทั้งปวง และทรงเข้าใจแรงจูงใจของความคิดทั้งปวงของทุกคน ถ้าเจ้าแสวงหาพระองค์ เจ้าจะพบพระองค์ แต่ถ้าเจ้าทอดทิ้งพระองค์ พระองค์จะทรงทิ้งเจ้าตลอดไป 10 จงตระหนักว่าที่พระยาห์เวห์ได้ทรงเลือกเจ้าให้สร้างพระวิหารนี้เพื่อเป็นสถานที่บริสุทธิ์ จงเข้มแข็งและจงทำงานนี้”

11 แล้วดาวิดจึงทรงมอบแบบแปลนมุขของพระวิหาร และอาคารต่างๆ ของพระวิหารนั้น พวกคลัง พวกห้องชั้นบน พวกห้องชั้นใน และห้องสำหรับพระที่นั่งกรุณาให้กับซาโลมอนโอรสของพระองค์ 12 พระองค์ทรงมอบพวกแบบแปลนซึ่งพระองค์ได้ทรงวาดสำหรับลานทั้งหลายของพระนิเวศของพระยาห์เวห์ พวกห้องระเบียงโดยรอบทั้งหมด พวกคลังในพระนิเวศของพระเจ้า และพวกคลังสำหรับบรรดาของที่เป็นของพระยาห์เวห์ 13 พระองค์ทรงมอบกฏระเบียบต่างๆ สำหรับส่วนของบรรดาปุโรหิต และของคนเลวี เพื่อมอบหมายความรับผิดชอบสำหรับงานปรนนิบัติของพระนิเวศของพระยาห์เวห์ และสำหรับเครื่องใช้ทั้งหมดในงานปรนนิบัติในพระนิเวศของพระยาห์เวห์

14 พระองค์ทรงมอบน้ำหนักทองคำของภาชนะทองคำทุกอย่าง สำหรับการปรนนิบัติแต่ละอย่าง และน้ำหนักเงินของภาชนะเงินทุกอย่าง สำหรับอุปกรณ์ทุกอย่างสำหรับงานปรนนิบัติทุกอย่าง 15 รายละเอียดต่อไปนี้ได้ถูกกำหนดโดยน้ำหนัก รวมทั้งรายละเอียดของเชิงประทีปทองคำและตะเกียงทองคำ รายละเอียดโดยน้ำหนักของเชิงประทีปแต่ละคันกับตะเกียงแต่ละดวง สำหรับพวกเชิงประทีปเงินและรายละเอียดสำหรับการใช้เชิงประทีปแต่ละอันอย่างเหมาะสม 16 พระองค์ทรงกำหนดน้ำหนักทองคำสำหรับโต๊ะขนมปังตั้งถวายแต่ละโต๊ะ น้ำหนักของเงินสำหรับโต๊ะเงิน 17 พระองค์ทรงกำหนดน้ำหนักทองคำบริสุทธิ์สำหรับพวกส้อมแทงเนื้อ พวกอ่าง และพวกถ้วย พระองค์ทรงกำหนดน้ำหนักชามทองคำแต่ละใบ และน้ำหนักของชามเงินแต่ละใบ 18 พระองค์ทรงกำหนดน้ำหนักของทองคำเนื้อละเอียดสำหรับแท่นเครื่องหอม และน้ำหนักทองคำสำหรับการออกแบบของพวกเครูปนั้นที่กางปีกของพวกเขาออกและคลุมหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ 19 ดาวิดตรัสว่า “เราได้เขียนทั้งหมดเหล่านี้ตามที่พระยาห์เวห์ทรงสั่งเรา และประทานความเข้าใจแก่เราเกี่ยวกับการออกแบบนั้น"

20 ดาวิดด้ตรัสกับซาโลมอนโอรสของพระองค์ว่า “จงเข้มแข็งและกล้าหาญ จงทำงานนั้น อย่ากลัวหรือ กังวลเพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าคือพระเจ้าของข้าสถิตกับเจ้า พระองค์จะไม่ทรงละจากเจ้าหรือทอดทิ้งเจ้า จนกว่างานทั้งสิ้นสำหรับงานปรนนิบัติแห่งพระวิหารของพระยาห์เวห์จะสำเร็จ 21 ดูสิ นี่มีส่วนต่างๆ ของปุโรหิตและคนเลวี สำหรับงานปรนนิบัติทุกอย่างในพระวิหารของพระเจ้า พวกเขาจะอยู่กับเจ้า ร่วมกับคนทั้งหมดผู้ที่มีความชำนาญและเต็มใจที่จะช่วยเจ้าในการทำงานและทำงานปรนนิบัตินั้น พวกเจ้าหน้าที่ และประชาชนทั้งปวงก็พร้อมที่จะทำตามคำบัญชาทั้งหลายของเจ้า”

29

1 กษัตริย์ดาวิดได้ตรัสกับที่ชุมนุมชนทั้งสิ้นว่า “ซาโลมอนบุตรของข้าพเจ้า ซึ่งเป็นผู้เดียวที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้นั้น ยังเป็นคนหนุ่มและไม่มีประสบการณ์ และการงานนั้นก็ยิ่งใหญ่ เพราะว่าพระวิหารนั้นไม่ใช่สำหรับคน แต่สำหรับพระเจ้าพระยาห์เวห์ 2 เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงได้จัดเตรียมสิ่งต่างๆ ไว้สำหรับพระนิเวศของพระเจ้าของข้าพเจ้าเต็มความสามารถของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าให้ทองคำสำหรับสิ่งที่จะต้องถูกทำด้วยทองคำ เงินสำหรับสิ่งที่จะต้องถูกทำด้วยเงิน ทองสัมฤทธิ์สำหรับสิ่งที่จะต้องถูกทำด้วยทองสัมฤทธิ์ เหล็กสำหรับสิ่งที่จะต้องถูกทำด้วยเหล็ก และไม้สำหรับสิ่งที่จะต้องถูกทำด้วยไม้ ข้าพเจ้าให้หินโอนิกซ์ หินต่างๆ ที่ถูกจัดเป็นชุด หินสีต่างๆ สำหรับการฝังอัญมณีที่มีค่าทุกชนิด และหินอ่อนมากมาย 3 บัดนี้ เพราะความปิติยินดีของข้าพเจ้าในพระนิเวศของพระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าให้ทรัพย์สินส่วนตัวของข้าพเจ้าคือทองคำและเงินเพื่อการก่อสร้างนี้ ข้าพเจ้าทำเช่นนี้เพิ่มเติมเข้าไปในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมไว้เพื่อพระวิหารบริสุทธิ์นี้คือ 4 ทองคำสามพันตะลันต์จากโอฟีร์ และเงินถลุงแล้วเจ็ดพันตะลันต์เพื่อที่จะบุพวกผนังของอาคารต่างๆ 5 ข้าพเจ้าได้ถวายทองคำสำหรับสิ่งต่างๆ ที่จะต้องทำด้วยทอง และเงินสำหรับสิ่งต่างๆ ที่จะต้องถูกทำด้วยเงินและสิ่งต่างๆ สำหรับงานทุกประเภทที่จะต้องทำโดยช่างผู้ชำนาญ มีใครบ้างที่เต็มใจจะถวายแด่พระยาห์เวห์ในวันนี้ และถวายตัวเขาเองให้พระองค์?”

6 แล้วพวกผู้นำของครอบครัวบรรพบุรุษของพวกเขา พวกผู้นำของเผ่าทั้งหลายของอิสราเอล ทั้งผู้บัญชาการนายพัน และนายร้อย และโดยข้าราชบริพารของกษัตริย์ก็ได้ถวายด้วยความเต็มใจ 7 เขาทั้งหลายได้ถวายเพื่องานปรนนิบัติแห่งพระนิเวศของพระเจ้าห้าพันตะลันต์ และทองคำหนึ่งหมื่นดาริค เงินหนึ่งหมื่นตะลันต์ เงินหนึ่งหมื่นแปดพันตะลันต์ และเหล็ก 100,000 ตะลันต์ 8 ใครที่มีอัญมณีก็ได้ถวายไว้ที่คลังพระนิเวศของพระยาห์เวห์ ในความดูแลของเยฮีเอล เชื้อสายคนหนึ่งของเกอร์โชน 9 ประชาชนได้เปรมปรีดิ์ เพราะการถวายสิ่งเหล่านี้ด้วยความสมัครใจ เพราะพวกเขาได้ถวายด้วยความเต็มใจแด่พระยาห์เวห์ กษัตริย์ดาวิดได้ทรงเปรมปรีดิ์เป็นอย่างยิ่งด้วย

10 ดาวิดได้ทรงสรรเสริญพระยาห์เวห์ต่อหน้าชุมนุมชนทั้งปวง พระองค์ได้ทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอให้พระองค์ได้รับการสรรเสริญตลอดไปเป็นนิตย์ 11 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ความยิ่งใหญ่ ฤทธานุภาพ สง่าราศี ชัยชนะ และความโอ่อ่าตระการเป็นของพระองค์ เพราะทุกสิ่งที่มีอยู่ในท้องฟ้า และบนแผ่นดินโลกเป็นของพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ราชอาณาจักรเป็นของพระองค์ และพระองค์ทรงเป็นที่ยกย่องปกครองทุกสิ่ง 12 ทั้งความมั่งคั่งและเกียรติมาจากพระองค์ และพระองค์ทรงครอบครองอยู่เหนือประชาชนทุกคน ฤทธิ์อำนาจและฤทธานุภาพอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์ทรงครอบครองกำลังและฤทธานุภาพที่จะทำให้ประชาชนยิ่งใหญ่และที่จะให้กำลังแก่คนใดคนหนึ่ง 13 บัดนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายขอบพระคุณพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย และสรรเสริญพระนามอันรุ่งโรจน์ของพระองค์

14 “แต่ข้าพระองค์เป็นใคร? และชนชาติของข้าพระองค์เป็นใคร ที่ข้าพระองค์ทั้งหลายจะสามารถถวายแด่พระองค์ด้วยความเต็มใจเช่นนี้? ที่จริงแล้วสิ่งของทุกอย่างมาจากพระองค์ และข้าพระองค์ทั้งหลายได้ถวายกลับให้พระองค์ในสิ่งที่เป็นของพระองค์ 15 เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นคนแปลกหน้าและนักเดินทางทั้งหลายเฉพาะพระพักตร์พระองค์ ดังเช่นบรรพบุรุษทั้งหมดของข้าพระองค์ทั้งหลายเป็น วันทั้งหลายของพวกข้าพระองค์บนแผ่นดินโลกเป็นเหมือนเงา และไม่มีความหวังของการคงเหลืออยู่บนแผ่นดินโลก 16 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ความมั่งคั่งทั้งหมดนี้ที่พวกข้าพระองค์ได้สะสมเพื่อสร้างพระวิหารเพื่อถวายเกียรติพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์ ล้วนมาจากพระองค์และเป็นของพระองค์ 17 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทราบว่า พระองค์ทรงตรวจดูจิตใจ และทรงพอพระทัยในความซื่อตรง ส่วนข้าพระองค์ ข้าพระองค์ถวายของเหล่านี้ทั้งสิ้น ด้วยความเต็มใจตามความซื่อตรงแห่งจิตใจของข้าพระองค์ และบัดนี้ข้าพระองค์มองดูด้วยความยินดีเมื่อประชากรของพระองค์ ผู้ซึ่งอยู่ ณ ที่นี้เต็มใจถวายของทั้งหลายต่อพระองค์ 18 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัคและอิสราเอลบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงรักษาสิ่งนี้ตลอดไปในความคิดในใจของประชาชนของพระองค์ และขอทรงบงการจิตใจของเขาทั้งหลายให้มุ่งตรงสู่พระองค์ 19 ขอประทานความเต็มใจให้ซาโลมอนบุตรชายของข้าพระองค์ ที่จะปรารถนารักษาบรรดาพระบัญญัติ พระโอวาท และกฎเกณฑ์ของพระองค์ และให้ทำตามแบบแปลนเหล่านี้เพื่อสร้างพระราชวังสำหรับสิ่งซึ่งข้าพระองค์ได้เตรียมไว้แล้วนั้น”

20 ดาวิดได้ตรัสกับที่ชุมนุมชนทั้งปวงว่า “บัดนี้จงถวายสาธุการแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย” ชุมนุมชนทั้งปวงได้สรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย และได้ก้มศรีษะของพวกเขาลงและได้นมัสการพระยาห์เวห์ และถวายบังคมแด่กษัตริย์ 21 ในวันต่อมาเขาทั้งหลายถวายสัตวบูชา และถวายเครื่องเผาบูชาแด่พระยาห์เวห์ เป็นวัวผู้หนึ่งพันตัว แกะผู้หนึ่งพันตัว และลูกแกะหนึ่งพันตัว พร้อมกับเครื่องดื่มบูชาและถวายสัตวบูชาอย่างมากมายเพื่ออิสราเอลทั้งปวง 22 ในวันนั้นเขาทั้งหลายได้กินและดื่มเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ด้วยการฉลองที่ยิ่งใหญ่ เขาทั้งหลายได้กระทำให้ซาโลมอน โอรสของดาวิดเป็นกษัตริย์ครั้งที่สอง และได้เจิมพระองค์ด้วยอำนาจของพระยาห์เวห์เป็นผู้ครอบครอง พวกเขาได้เจิมศาโดกให้เป็นปุโรหิต 23 แล้วซาโลมอนได้ประทับบนพระที่นั่งของพระยาห์เวห์ เป็นกษัตริย์แทนดาวิดราชบิดาของพระองค์ พระองค์ทรงเจริญขึ้นและอิสราเอลทั้งปวงก็เชื่อฟังพระองค์ 24 ผู้นำทั้งหมด พวกทหาร และบรรดาโอรสของกษัตริย์ดาวิดได้สาบานตัวต่อกษัตริย์ซาโลมอน 25 พระยาห์เวห์ได้ทรงยกซาโลมอนให้ยิ่งใหญ่ต่อหน้าของอิสราเอลทั้งปวง และได้ประทานอำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่าที่พระองค์ได้เคยประทานให้กษัตริย์องค์ใดในอิสราเอลที่มีมาก่อนพระองค์

26 ดาวิดบุตรชายเจสซีครอบครองเหนืออิสราเอลทั้งปวง 27 ดาวิดได้ทรงเป็นกษัตริย์ของอิสราเอลสี่สิบปี พระองค์ได้ทรงครองราชย์เจ็ดปีในเฮโบรน และสามสิบสามปีในเยรูซาเล็ม 28 พระองค์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อทรงชรา หลังจากการทรงพระชนม์ชีพมายาวนาน ทรงมั่งคั่งและมีพระเกียรติ ซาโลมอนโอรสของพระองค์ได้ทรงครองราชย์แทนพระองค์ 29 พระราชกิจของกษัตริย์ดาวิดตั้งแต่ต้นจนที่สุด ได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของซามูเอลผู้เผยพระวจนะ และในประวัติศาสตร์ของนาธันผู้เผยพระวจนะ และในประวัติศาสตร์ของกาดผู้เผยพระวจนะ 30 ได้มีการบันทึกพระกรณียกิจเรื่องการครอบครองของพระองค์ และความสำเร็จของพระองค์ และเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อพระองค์ อิสราเอล และบรรดาราชอาณาจักรทั้งสิ้นของดินแดนต่างๆ