PHILIPPIANS
1
1
จากเปาโลและทิโมธี ผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ ถึงทุกท่านที่ถูกแยกไว้ในพระเยซูคริสต์ที่อยู่ในเมืองฟีลิปปี พร้อมกับบรรดาผู้ปกครองดูแล และบรรดามัคนายก
2
ขอให้พระคุณ และสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเราและจากพระเยซูคริสต์เจ้าอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด
3
ข้าพเจ้าขอบคุณพระเจ้าของข้าพเจ้าทุกครั้งเมื่อระลึกถึงท่านทั้งหลาย
4
ข้าพเจ้าอธิษฐานเพื่อพวกท่านทั้งหลายอยู่เสมอ ข้าพเจ้าอธิษฐานด้วยใจชื่นชมยินดี
5
ข้าพเจ้าขอบคุณพระเจ้าที่พวกท่านได้ร่วมกันประกาศข่าวประเสริฐตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันนี้
6
ข้าพเจ้ามั่นใจในเรื่องนี้ว่า พระองค์ผู้ได้ทรงตั้งต้นการดีไว้ในพวกท่านจะทรงกระทำต่อไปให้สำเร็จ จนถึงวันของพระเยซูคริสต์เจ้า
7
ที่ข้าพเจ้ารู้สึกแบบนี้กับพวกท่านทั้งหลายจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องเพราะพวกท่านอยู่ในหัวใจของข้าพเจ้า พวกท่านทั้งหมดได้มีส่วนร่วมในพระคุณทั้งในการถูกจองจำของข้าพเจ้าและในการปกป้องและรับประกันข่าวประเสริฐนี้
8
เพราะพระเจ้าทรงเป็นพยานว่า ข้าพเจ้าปรารถนาอยากพบพวกท่านทั้งหลายด้วยความรักที่ลึกซึ้งของพระเยซูคริสต์
9
ข้าพเจ้าอธิษฐานดังนี้ ขอให้ความรักของพวกท่านจำเริญมากยิ่งขึ้นในความรู้และในความเข้าใจทั้งหมด
10
ข้าพเจ้าอธิษฐานเพื่อสิ่งนี้ เพื่อพวกท่านจะได้ทดสอบและเลือกเอาสิ่งที่ยอดเยี่ยมไว้ ข้าพเจ้าอธิษฐานเพื่อสิ่งนี้ เพื่อพวกท่านจะมีความจริงใจและไม่มีที่ติในวันของพระคริสต์
11
เพื่อให้ท่านเต็มเปี่ยมไปด้วยผลแห่งความชอบธรรมที่ผ่านมาทางพระเยซูคริสต์ เพื่อเป็นที่ถวายเกียรติและสรรเสริญพระเจ้า
12
บัดนี้พี่น้องที่รัก ข้าพเจ้าอยากให้ท่านรู้ว่าสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับขัาพเจ้าทำให้ข่าวประเสริฐได้ขยายออกไปอย่างมากมาย
13
ผลที่ตามมาก็คือ พวกทหารพระราชวังทั้งหมดและคนอื่นได้รู้ถึงการจองจำในพระคริสต์ของพระเจ้า
14
พี่น้องส่วนใหญ่ในองค์พระผู้เป็นเจ้ามีแรงจูงใจอันเนื่องมาจากการถูกจองจำของข้าพเจ้าที่จะกล้ากล่าวพระวจนะโดยไม่กลัวอะไร
15
บางคนประกาศพระวจนะของพระเจ้าด้วยใจอิจฉาและทุ่มเถียงกัน บางคนก็ประกาศด้วยใจปรารถนาดี
16
ผู้ที่ประกาศพระคริสต์ด้วยความรักรู้ว่าข้าพเจ้าถูกจองจำเพื่อปกป้องข่าวประเสริฐ
17
แต่คนอื่นที่ประกาศพระคริสต์ด้วยแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัวและเสเสร้ง พวกเขาคิดว่าพวกเขากำลังสร้างปัญหาให้ข้าพเจ้าในการถูกตีตรวนของข้าพเจ้า
18
ไม่ว่าจะโดยวิธีใดก็ตาม ไม่ว่าเขาจะเสแสร้งหรือว่าทำด้วยความจริง พระคริสต์ก็ได้ถูกประกาศออกไปอยู่ดี ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงมีความชื่นชมยินดี และข้าพเจ้าก็จะยินดีต่อไป
19
เพราะข้าพเจ้าทราบว่าสิ่งนี้จะส่งผลให้ข้าพเจ้าได้รับการปลดปล่อย สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเพราะคำอธิษฐานของพวกท่าน และเพราะการช่วยเหลือของพระวิญญาณของพระคริสต์
20
ถ้าดูจากความหวังความหวังอันเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและความเชื่อมั่นของข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะไม่มีความละอาย แต่โดยความกล้าหาญทั้งสิ้นอย่างที่เคยมีมาอยู่เสมอและเช่นเดียวกันในตอนนี้ ข้าพเจ้าหวังว่าพระคริสต์จะได้รับเกียรติในกายของข้าพเจ้า ไม่ว่าจะโดยการมีชีวิตอยู่หรือโดยความตาย
21
สำหรับข้าพเจ้า การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร
22
แต่ถ้าการอยู่ในกายนี้ก่อให้เกิดผลจากการทำงานหนักของข้าพเจ้า แล้วจะเลือกอะไร? ข้าพเจ้าก็ไม่รู้
23
เพราะข้าพเจ้าลำบากใจที่จะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะจากไปอยู่กับพระคริสต์ ซึ่งดีกว่าอย่างมากมาย
24
แต่การยังอยู่ในร่างกายนี้ก็จำเป็นมากกว่าเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของพวกท่าน
25
เนื่องจากข้าพเจ้ามั่นใจในเรื่องนี้ ข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าจะยังคงอยู่กับพวกท่านทั้งหลายต่อไปอีก เพื่อความก้าวหน้าและความชื่นชมยินดีในความเชื่อของพวกท่าน
26
ผลก็คือ เพื่อว่าโดยทางข้าพเจ้า พวกท่านจะมีเหตุผลเพื่อโอ้อวดในองค์พระเยซูคริสต์มากขึ้นเมื่อข้าพเจ้ามาหาพวกท่านอีกครั้งหนึ่ง
27
ขอเพียงดำเนินชีวิตให้สมกับข่าวประเสริฐของพระคริสต์ จงกระทำเช่นนี้เพื่อว่าไม่ว่าข้าพเจ้าจะมาหาท่านหรือข้าพเจ้าไม่อยู่ ข้าพเจ้าก็จะได้ยินว่าพวกท่านยืนหยัดอย่างมั่นคงในวิญญาณเดียวกัน ข้าพเจ้าอยากได้ยินข่าวว่าพวกท่านได้ร่วมกันต่อสู้ด้วยจิตใจเดียวกันเพื่อความเชื่อในข่าวประเสริฐ
28
อย่ากลัวในสิ่งที่ศัตรูของพวกท่านได้กระทำ สิ่งนี้เป็นเครื่องหมายแห่งการถูกทำลายของพวกเขา แต่สำหรับพวกท่านนี่เป็นเครื่องหมายแห่งความรอดของท่าน และสิ่งนี้มาจากพระเจ้า
29
เพราะสิ่งนี้ได้ประทานให้แก่พวกท่านเพื่อเห็นแก่พระคริสต์ ไม่เพียงแค่ให้ท่านเชื่อในพระองค์เท่านั้น แต่ให้ยอมทนทุกข์เพื่อพระองค์ด้วย
30
เพราะท่านก็มีการต่อสู้อย่างเดียวกับที่ท่านได้เห็นมาแล้วจากข้าพเจ้า และเวลานี้ได้ยินว่าข้าพเจ้ากำลังต่อสู้อยู่
2
1
ฉะนั้น ถ้ามีการเร้าใจในความรัก ถ้ามีการปลอบประโลมใจจากความรักของพระองค์ ถ้ามีการสามัคคีธรรมในพระวิญญาน ถ้ามีความเห็นอกเห็นใจและความกรุณาปราณี
2
จงทำให้ความยินดีของข้าพเจ้าเต็มเปี่ยมด้วยการคิดเหมือนกัน มีความรักหมือนอย่างเดียวกัน และมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในฝ่ายวิญญาณ และมีวัตถุประสงค์อย่างเดียวกัน
3
อย่าทำสิ่งใดเพราะเห็นแก่ตัวหรือชิงดีชิงเด่นกัน แต่จงมีใจถ่อม ถือว่าคนอี่นดีกว่าตนเอง
4
อย่าเห็นแก่ประโยชน์ของตนเองฝ่ายเดียว แต่จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นด้วย
5
จงคิดเหมือนอย่างพระเยซูคริสต์
6
แม้พระองค์มีสภาพเป็นพระเจ้า แต่พระองค์ไม่ถือว่าความเสมอภาคของพระองค์กับพระเจ้านั้นน่ายึดถือ
7
แต่พระองค์ยอมสละฐานะของพระองค์เอง พระองค์มารับสภาพเป็นทาสรับใช้ พระองค์ปรากฏในสภาพที่เป็นมนุษย์
8
พระองค์ทรงถ่อมพระองค์เอง และยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณาบนไม้กางเขน
9
ด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงทรงยกพระองค์ขึ้น ประทานให้พระนามของพระองค์ที่เหนือนามทุกนามทั้งปวง
10
พระองค์กระทำดังนี้เพื่อว่าในพระนามของพระเยซู ทุกเข่าจะกราบลง คือทุกเข่าของผู้ที่อยู่ในสวรรค์และอยู่บนแผ่นดินโลกและใต้แผ่นดินโลก
11
พระเจ้ากระทำดังนี้ เพื่อให้ทุกลิ้นยอมรับด้วยปากว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าพระบิดา
12
ดังนั้น ท่านที่รักของข้าพเจ้า เหมือนอย่างที่ท่านเชื่อฟังอยู่เสมอมา ไม่เพียงเฉพาะเวลาที่ข้าพเจ้าอยู่ด้วยเท่านั้นแต่มากยิ่งกว่าในเวลาที่ข้าพเจ้าไม่อยู่ จงทำตัวให้สมกับความรอดที่ได้รับด้วยความเกรงกลัวและตัวสั่น
13
เพราะพระเจ้าเป็นผู้กำลังกระทำการภายในท่าน เพื่อให้ท่านมีความตั้งใจและทำการงานเพื่อให้เป็นที่ชอบพระทัยของพระองค์
14
จงกระทำทุกสิ่งโดยปราศจากการบ่นหรือทุ่มเถียงกัน
15
ให้ปฏิบัติเช่นนี้ เพื่อว่าท่านจะเป็นผู้ที่ไม่มีใครตำหนิท่านได้และซื่อตรง เป็นบุตรของพระเจ้าที่ปราศจากตำหนิ จงปฎิบัติดังนี้เพื่อที่ท่านจะส่องแสงดังความสว่างในโลกท่ามกลางคนในยุคนี้ซึ่งมีแต่ความคดโกงและชั่วร้าย
16
จงยึดมั่นในพระวจนะแห่งชีวิตเพื่อว่าข้าพเจ้าจะมีเหตุให้รับเกียรติในวันแห่งพระคริสต์ เมื่อนั้นข้าพเจ้าจะได้รู้ว่าไม่ได้วิ่งแข่งหรือทำงานหนักอย่างเปล่าประโยชน์
17
แต่ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะต้องเทชีวิตลงถวายเป็นเครื่องบูชาบนแท่นบูชาและเป็นประโยชน์ต่อความเชื่อของท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าก็ปิติยินดีและปิติยินดีร่วมกับท่านทั้งหลายด้วย
18
ในลักษณะอย่างเดียวกัน ท่านก็ควรปิติยินดีและปิติยินดีร่วมกับข้าพเจ้าด้วย
19
แต่ข้าพเจ้าหวังใจในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าว่าจะส่งทิโมธีไปหาท่านโดยเร็ว เพื่อที่ข้าพเจ้าจะได้รับกำลังใจเมื่อได้รับรู้สิ่งที่เกี่ยวกับพวกท่าน
20
เพราะข้าพเจ้าไม่มีคนอื่นที่มีท่าทีที่ห่วงใยท่านทั้งหลายเหมือนอย่างเขา
21
เพราะเขาเหล่านั้นแสวงหาแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ใช่สิ่งที่เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์
22
แต่ท่านรู้ว่าเขาเหมาะสมอย่างยิ่งเพราะเขาร่วมงานกับข้าพเจ้าในข่าวประเสริฐเหมือนลูกคอยปรนนิบัติพ่อของตน
23
ดังนั้นข้าพเจ้าหวังใจว่าจะส่งเขามาหาท่านโดยเร็วทันทีที่ข้าพเจ้ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้าพเจ้า
24
แต่ข้าพเจ้ามั่นใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่าข้าพเจ้าเองจะได้มาหาพวกท่านเร็วๆ นี้เช่นกัน
25
แต่ข้าพเจ้าเห็นว่ามีความจำเป็นต้องส่งเอฟาโฟรติทัสกลับไปหาพวกท่าน เขาเป็นเหมือนน้องชายและเพื่อนร่วมงาน และเป็นเพื่อนทหารของข้าพเจ้า และยังเป็นตัวแทนของท่านและผู้รับใช้ที่คอยปรนนิบัติในความจำเป็นของข้าพเจ้า
26
เพราะว่าเขากังวลใจและปรารถนาที่จะอยู่กับท่านทั้งหลายเพราะท่านทราบว่าเขาป่วย
27
เขาป่วยหนักปางตาย แต่พระเจ้าทรงเมตตาต่อเขา และไม่เพียงแต่ต่อเขาเท่านั้น แต่ต่อข้าพเจ้าด้วย เพื่อว่าข้าพเจ้าจะไม่มีความทุกข์หนักไปมากกว่านี้
28
เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงปรารถนาที่จะส่งเขาไปโดยเร็วยิ่งขึ้นเพี่อว่าเมื่อท่านเห็นเขาอีกครั้ง ท่านจะได้ยินดีและข้าพเจ้าจะได้คลายกังวล
29
จงต้อนรับเอฟาโฟรดิทัสในองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความยินดี จงให้เกียรติแก่คนอย่างเขา
30
เพราะเพื่องานของพระคริสต์ เขาจึงเกือบจะสูญเสียชีวิต เขาเสี่ยงชีวิตของเขาเพื่อปรนนิบัติข้าพเจ้าและทำแทนในสิ่งที่ท่านไม่อาจทำให้ข้าพเจ้าได้
3
1
สุดท้ายนี้ พี่น้องของข้าพเจ้า จงชี่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า สำหรับข้าพเจ้าแล้วการเขียนข้อความอย่างเดียวกันนี้ถึงท่านอีกครั้งไม่ใช่เรื่องลำบาก สิ่งนี้จะทำให้ท่านทั้งหลายปลอดภัย
2
จงระวังพวกสุนัข จงระวังพวกกระทำชั่วทั้งหลาย จงระวังพวกเชือดเนื้อเถือหนัง
3
เพราะว่าพวกเราเป็นผู้ที่เข้าสุหนัต เป็นผู้ที่นมัสการโดยพระวิญญานของพระเจ้า เป็นผู้ที่อวดอ้างในพระเยซูคริสต์ และเป็นผู้ที่ไม่ไว้ใจในเนื้อหนัง
4
แม้อย่างนั้น ตัวข้าพเจ้าเองอาจมีเหตุให้ไว้ใจในเนื้อหนังได้ ถ้าใครคิดว่าตนเองไว้ใจในเนื้อหนัง ข้าพเจ้าก็มีมากกว่าเขาเสียอีก
5
ข้าพเจ้าเข้าสุหนัตเมื่อเกิดมาได้แปดวัน เป็นคนอิสราเอล ในเผ่าเบนยามิน เป็นฮีบรูที่เกิดกับคนฮีบรู ในด้านธรรมบัญญัติอยู่ในคณะฟาริสี
6
ข้าพเจ้าได้ข่มเหงคริสตจักรด้วยความกระตือรือร้น ในด้านความชอบธรรมแห่งธรรมบัญญัติ ข้าพเจ้าก็ไม่มีที่ติ
7
แต่สิ่งใดที่เคยเป็นกำไรสำหรับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าถือว่าขาดทุนแล้วเพราะพระคริสต์
8
แท้ที่จริงแล้ว ข้าพเจ้าถือว่าทุกสิ่งขาดทุนเพราะเหตุคุณค่าอันสูงยิ่งที่ได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า เพื่อพระองค์ข้าพเจ้ายอมสละทุกสิ่งและถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเหมือนเศษขยะเพื่อว่าข้าพเจ้าจะได้พระคริสต์เป็นกำไร
9
และจะได้เห็นว่าข้าพเจ้าอยู่ในพระองค์ ข้าพเจ้าไม่มีความชอบธรรมของข้าพเจ้าเองซึ่งได้มาโดยธรรมบัญญัติ แต่ข้าพเจ้ามีความชอบธรรมซึ่งมาโดยความเชื่อในพระคริสต์ คือความชอบธรรมที่มาจากพระเจ้าโดยความเชื่อ
10
ดังนั้น ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะได้รู้จักพระองค์และฤทธิ์อำนาจแห่งการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ และมีส่วนร่วมในการทนทุกข์ของพระองค์ด้วย ข้าพเจ้าปรารถนาจะได้รับการเปลี่ยนแปลงให้เป็นเหมือนพระองค์ในความตายของพระองค์
11
เพื่อที่ว่าข้าพเจ้าจะได้มีประสบการณ์ในการเป็นขึ้นจากความตายด้วย
12
มิใช่ว่าข้าพเจ้าได้รับสิ่งเหล่านี้แล้ว หรือดีพร้อมแล้ว แต่ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไป เพื่อที่จะได้ฉวยไว้เอาตามอย่างพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ได้ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้แล้ว
13
พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยเอาไว้ได้แล้ว แต่กำลังทำสิ่งหนึ่งคือลืมสิ่งที่ผ่านมาแล้วเสียและโน้มตัวไปยังสิ่งที่อยู่ข้างหน้า
14
ข้าพเจ้าบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัลคือการทรงเรียกจากพระเจ้าซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์
15
พวกเราที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ให้พวกเราคิดอย่างนี้ และถ้าท่านคิดเห็นเป็นอย่างอื่นในเรื่องใด พระเจ้าจะทรงโปรดสำแดงสิ่งเหล่านั้นให้ท่านเห็นด้วย
16
อย่างไรก็ตาม พวกเราได้แค่ไหนแล้ว ก็ให้เราดำเนินตามนั้นต่อไป
17
พี่น้องทั้งหลาย จงเลียนแบบอย่างข้าพเจ้า และคอยดูคนทั้งหลายเหล่านั้นที่ดำเนินตามแบบอย่างที่ท่านเห็นในพวกเราอย่างใกล้ชิด
18
มีหลายคนที่ประพฤติตัวเป็นศัตรูต่อกางเขนของพระคริสต์ ซึ่งข้าพเจ้าได้บอกท่านถึงเรื่องของเขาหลายครั้งแล้ว และเดี๋ยวนี้ข้าพเจ้ายังบอกท่านด้วยน้ำตาไหล
19
ปลายทางของคนเหล่านั้นคือความพินาศ พระของเขาคือกระเพาะของเขา เขาโอ้อวดในสิ่งที่น่าอับอายของพวกเขา พวกเขาคิดถึงแต่สิ่งทางโลก
20
แต่เราที่เป็นพลเมืองแห่งสวรรค์ที่ซึ่งเรารอคอยพระผู้ช่วยให้รอดคือองค์พระเยซูคริสต์เจ้า
21
พระองค์จะทรงเปลี่ยนร่างกายอันต่ำต้อยของพวกเรา ให้เป็นเหมือนพระกายอันทรงสง่าราศีของพระองค์ ด้วยฤทธานุภาพของพระองค์ที่จะทรงสามารถปราบทุกสิ่งลงอยู่ใต้อำนาจของพระองค์
4
1
เหตุฉะนั้น พี่น้องที่รักของข้าพเจ้าผู้ซึ่งข้าพเจ้าปรารถนาอยากพบพวกท่าน ผู้เป็นความชื่นชมยินดีและเป็นมงกุฎของข้าพเจ้า เพื่อนที่รักเอ๋ย จงยืนมั่นคงในองค์พระผู้เป็นเจ้า
2
ข้าพเจ้าขอร้องนางยูโอเดีย และขอร้องนางสินทิเค ให้มีความคิดแบบเดียวกันในองค์พระผู้เป็นเจ้า
3
แน่นอน ข้าพเจ้าขอร้องพวกท่านเช่นกัน ผู้เป็นเพื่อนร่วมแอกที่แท้จริงของข้าพเจ้า โปรดช่วยผู้หญิงเหล่านี้ เพราะพวกเขาได้ร่วมแรงกับข้าพเจ้าในการประกาศข่าวประเสริฐพร้อมกับเคลเมนท์และเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ของข้าพเจ้าซึ่งมีรายชื่อในหนังสือแห่งชีวิต
4
จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกทีว่า จงชื่นชมยินดี
5
ให้ความอ่อนสุภาพของท่านเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนทั้งหมด องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ใกล้
6
อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดเลย แต่จงทูลทุกสิ่งด้วยการอธิษฐาน การร้องขอ และด้วยการขอบพระคุณ ให้พระเจ้าทรงทราบการร้องขอของพวกท่าน
7
และสันติสุขของพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจทั้งหมด จะคุ้มครองใจและความคิดของพวกท่านในพระเยซูคริสต์
8
สุดท้ายนี้ พี่น้องทั้งหลาย สิ่งใดที่เป็นจริง สิ่งใดที่มีเกียรติ สิ่งใดที่ยุติธรรม สิ่งใดที่บริสุทธิ์ สิ่งใดที่น่ารัก สิ่งใดที่น่าฟัง ถ้ามีสิ่งใดที่ล้ำเลิศ ถ้ามีสิ่งใดที่น่าสรรเสริญ ให้คิดถึงสิ่งเหล่านี้
9
สิ่งที่ท่านเคยเรียน เคยรับ เคยได้ยิน เคยเห็นในข้าพเจ้า ให้ทำสิ่งเหล่านี้ แล้วพระเจ้าแห่งสันติสุขจะอยู่กับท่านทั้งหลาย
10
ข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะในที่สุดพวกท่านได้หวนระลึกถึงข้าพเจ้าอีกในตอนนี้ เมื่อก่อนพวกท่านเคยเป็นห่วงข้าพเจ้าอย่างจริงจัง แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะให้พวกท่านช่วยข้าพเจ้า
11
ข้าพเจ้าไม่ได้เรียกร้องเพื่อความต้องการของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าเรียนรู้ที่จะพอใจในทุกสถานการณ์
12
ข้าพเจ้าเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างขัดสนหรืออยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ ในทุกทางและในทุกสิ่ง ข้าพเจ้าเรียนรู้เคล็ดลับทั้งเมื่อยามอิ่มและเมื่อยามหิวโหย ทั้งเมื่อยามมีอย่างมากมายและเมื่อขัดสน
13
ข้าพเจ้าสามารถทำทุกสิ่งได้โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า
14
อย่างไรก็ตาม พวกท่านได้มีส่วนร่วมในความทุกข์ยากทั้งหลายของข้าพเจ้า
15
พี่น้องชาวฟีลิปปี ท่านรู้ว่า เมื่อเริ่มแรกในการประกาศข่าวประเสริฐ เมื่อข้าพเจ้าออกจากมาซิโดเนีย ไม่มีใครสนับสนุนข้าพเจ้าทั้งในการให้ของบริจาคและการรับของบริจาคเลยนอกจากพวกท่านเท่านั้น
16
แม้ตอนที่ข้าพเจ้าอยู่ในเมืองเธสะโลนิกา พวกท่านได้ส่งสิ่งที่ข้าพเจ้าขาดอยู่มาช่วยข้าพเจ้าหลายครั้ง
17
ข้าพเจ้าไม่ได้หวังของบริจาค แต่ข้าพเจ้าอยากเห็นผลเพิ่มขึ้นในบัญชีของพวกท่าน
18
ข้าพเจ้าได้รับทุกอย่างแล้ว และมีอย่างมากมาย ข้าพเจ้าอิ่มแล้ว ข้าพเจ้าได้รับสิ่งของที่พวกท่านได้ฝากเอปาโฟรดิทัส ซึ่งเป็นกลิ่นหอมหวาน และเป็นเครื่องบูชาซึ่งเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า
19
พระเจ้าจะทรงเติมทุกสิ่งที่ท่านขาดอยู่นั้นจากทรัพย์อันรุ่งเรืองของพระองค์ในพระเยซูคริสต์
20
บัดนี้ขอให้พระเจ้าพระบิดาของเราได้รับพระเกียรติตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน
21
ขอฝากทักทายผู้เชื่อทุกท่านในองค์พระเยซูคริสต์ พี่น้องที่อยู่กับข้าพเจ้าก็ฝากทักทายมายังพวกท่านด้วย
22
บรรดาผู้เชื่อทั้งหลายที่นี่ฝากทักทายท่านทั้งหลาย โดยเฉพาะคนที่อยู่ในพระราชวังของซีซาร์
23
ขอพระคุณขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าสถิตกับวิญญาณของพวกท่าน